reply
Jirapong June 13, 2012, 12:58 am
เก็บค่าเข้าชม ครับ แต่รายได้นำไปใช้เพื่อพัฒนาวังตะไคร้ หรือเพื่อทำสาธารณประโยชน์ ตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ จุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องทุนการศึกษา และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม



reply
Jirapong June 13, 2012, 12:57 am
ปัจจุบัน สวนพฤกษชาติวังตะไคร้เแห่งนี้ เป็นสมบัติของ มูลนิธิจุมภฏ - พันธุ์ทิพย์ บริหารโดยคณะกรรมการ บริหารของมูลนิธิฯเพื่อให้เป็นไปตามตราสารของมูลนิธิฯ ในอันที่จะให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และเป็นที่ศึกษาหาความรู้ทางพฤกษศาสตร์
ที่มีความสวยงามมีไม้ประดับ สวนผลไม้ สวนดอกไม้สวนปาล์ม สวนต้นไม้ในวรรณคดี สวนไม้ผลป่า สวนป่า และสวนสมุนไพร ทั้งในประเทศและต่างประเทศเกือบทั่วโลกนับร้อยชนิด นับเป็นที่เชิดหน้าชูตาประเทศไทย
ไปอีกนาน แสนนาน



reply
Jirapong June 13, 2012, 12:55 am
นับเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่ชอบขึ้นอยู่ตามห้วยลำธารทั่วไป เป็นต้นไม้ที่เหนียวมากมีก้านสีดำ
และมีดอกสีชมพูน่ารักมาก บริเวณวังตะไคร้นี้เดิมมีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ต่อมาได้ซื้อกรรมสิทธิ์ที่ดิน
จากผู้อื่นขยายตัวเป็นสวนพฤกษชาติ มีเนื้อที่ประมาณ1,000 ไร่เนื่องจากวังตะไคร้นี้เป็นด้านที่รับลมมรสุม
ตะวันตกเฉียงใต้ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม จึงทำให้มีฝนตกชุกหุบเขาบริเวณนี้จึงมีพรรณไม้
ใหญ่น้อยมากมาย ลำธารน้ำจะมีน้ำเต็มฝั่งไหลเชี่ยวจัด จึงเป็นที่เล่นกีฬาล่องแก่งด้วยแพยาง หรือชูชีพกัน
อย่างสนุกสนาน



reply
Jirapong June 13, 2012, 12:54 am
บริเวณนี้มีความงดงามตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของลำธาร 2 ลำธารลำธารหนึ่งชื่อคลอง
มะเดื่อจากน้ำตกเหวกระถินกับอีกลำธารหนึ่งชื่อคลองตะเคียน จากน้ำตกแม่ปล้อง ลำธารทั้ง 2 นี้
ไหลมาบรรจบกันเป็นธารเดียว มีแอ่งน้ำขัง เป็นวังน้ำอยู่เป็นตอน ๆ ไหลลงสู่แม่น้ำนครนายกและมีต้นตะไคร้
น้ำตะไคร้หางนาค



Load more...