reply
Not identifiable February 24, 2013, 2:38 pm
here



reply
Not identifiable February 24, 2013, 1:58 pm
here



reply
thejuk March 27, 2012, 3:05 pm
มุมมองจากวิหาร จะเห็นองค์เทพนาจา และเก๋งจีน
แลเห็นวิวทะเลไกลๆ



reply
thejuk March 27, 2012, 3:04 pm
หอกลอง มองจากระเบียงของตัววิหาร



reply
thejuk March 27, 2012, 3:04 pm
ผู้คนมากมายในวันที่ 13 ก.พ. 54
ส่วนใหญ่มาสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงกัน



reply
thejuk March 27, 2012, 3:04 pm
ประตูรั้วหน้าทางเข้า



reply
nongview February 14, 2011, 7:50 pm
ประวัติ

ศาลเจ้าแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อราวเดือนมีนาคม   พ.ศ.  2534  บนเนื้อที่ประมาณ  200  ตารางวา  โดยท่านอาจารย์สมชาย   พุทธนพ  เป็นผู้ริเริ่มสร้างศาลเจ้าแห่งนี้  เดิมทีเป็นเพียงแค่ศาลเจ้าเล็ก  ๆ  ไม่ใหญ่โตมาก บรรดาลูกศิษย์และผู้ที่ให้ความเคารพนับถือมาสักการบูชาเป็นจำนวนมาก  ด้วยบารมีแห่งองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อทำให้ผู้ที่มากราบไหว้  มีความร่มเย็นเป็นสุข  มีชีวิตที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในธุรกิจการค้ามากมาย

 

เมื่อปี  พ.ศ. 2539  ท่านอาจารย์สมชาย   พุทธนพ    ท่านได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ โดยจะสร้างศาลเจ้าหลังใหญ่ขึ้นเพื่อ “  เฉลิมพระเกียรติครบรอบ  72  พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” ในการเริ่มก่อสร้างศาลนั้นเริ่มสร้างเมื่อวันอาทิตย์ที่  16   กรกฎาคม  พ.ศ. 2538  ปีกุน จ.ศ.1357 แรม  5  ค่ำ  เดือน  8  เวลาประมาณ  13.00  น. ตามจันทรคติจีน  ตรงกับ  เดือน 6  วันที่  19   เวลา  บี๋ซี้  ประกอบพิธีการวางศิลาฤกษ์โดยท่านอาจารย์สมชาย  พุทธนพ  ซึ่งขณะนั้น มีเงินทุนของศาลอยู่เพียง  3  ล้านกว่าบาทเท่านั้น  ซึ่งก็ได้ลูกศิษย์พ่อค้าประชาชนที่ให้ความเคารพได้ร่วมบริจาคเงินสร้างศาลเจ้ามาจนถึงปัจจุบันแล้วเสร็จเมื่อวันศุกร์ที่  7 เมษายน   พ.ศ.  2543   ปีมะโรง  จ.ศ.  1362  ขึ้น  4  ค่ำ  เดือน  5  ( ปฏิทินจีนตามจันทรคติ  ตรงกับวันที่  3   เดือน 3   ทำพิธีตามฤกษ์ เทวโองการ ( แต่ยังไม่เป็นทางการ )


เมื่อวันอาทิตย์ที่  16   เมษายน   พ.ศ. 2543 เวลา  08.39  น. จ.ศ.  1362  ขึ้น  13  ค่ำ  เดือน 5   ( ปฏิทินจีนตามจันทรคติ   คือ  เดือน 3  วันที่  12  เวลา  ซิงซี้  )  ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างกว่า  4  ปี   ใช้งบประมาณการก่อสร้างกว่า  300  ล้านบาท  สร้างอยู่บนเนื้อที่  5 ไร่  และยังมีเนื้อที่อยู่รอบศาลเจ้าอีกกว่า  9  ไร่   เมื่อวันที่  11   มกราคม  2541  สมเด็จพระสังฆราช ฯ  ได้เสด็จมาเป็นประธานพิธีเททองหล่อพระพุทธ  7  พระองค์  และทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า   9  พระองค์  ให้แก่อาจารย์สมชาย   พุทธนพ  เพื่อทำพิธีบรรจุ  และได้รับเกียรติจาก  ฯ พณ ฯ ท่าน   ม.ร.ว. อดุลกิติ์  กิติยากร   เป็นประธานในพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  สมเด็จพระสังฆราช ฯ ได้พระราชทานนามวิหารแห่งนี้ว่า “  วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ”
ซึ่งมีนัยความหมายว่าเป็นที่สถิตของทวยเทพเจ้าทั้งหลาย


เมื่อวันที่  23  ตุลาคม  พ.ศ. 2544  สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จทรงพระราชดำเนินวางศิลาฤกษ์การสร้างสระบัวซึ่งได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระสังฆราชว่า “  สระเย็นศิระเพราะพระบริบาล ” ทรงเจิมแผ่นป้ายฟ้าดิน พร้อมทรงเบิกพระเนตรองค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม  และทรงปลูกต้นสาละ

วันอังคารที่  10   กันยายน  พ.ศ.  2545  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี  เสด็จพระราชดำเนินทรงเบิกพระเนตรองค์สมเด็จพระมารดาองค์เทพเจ้าแห่งดวงดาว  และองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ทรงเจิมกระถางธูปบูชาเทวดาฟ้าดิน  ทรงปลูกต้นศรีมหาโพธิ์และทรงวางศิลาฤกษ์อาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน   และเมื่อวันที่  4  ตุลาคม  2545  พระเจ้าวรวงค์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุเสด็จ  ณ  วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ( ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ) ทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ   ทรงเปิดเทศกาลกินเจเดือน  9   จีน   ทรงหล่อรูปพระโพธิสัตว์  3  พระองค์  และทรงปลูกต้นสาละในครั้งนี้ด้วย   การก่อสร้างศาลเจ้าได้มีการจัดตั้งเป็นวิหาร  4   ชั้น  ได้สร้างขึ้นเป็นสถานที่ในโครงการ “ เฉลิมพระเกียรติครบรอบ  72  พรรษา  องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ”   ปัจจุบันขยายเนื้อที่เพิ่มขึ้นรวมกว่า 25 ไร่



reply
nongview February 14, 2011, 7:35 pm
องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ (ประวัติย่อ)

องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ  เป็นตำนานที่เล่าขานกันมาแต่ครั้งบุราณกาล สมัยปลายราชวงศ์เซียงต้นราชวงศ์จิวมีจิวบุ้นอ้วงเป็นฮ่องเต้  ในยุคนั้นผู้ที่นับว่าเป็นอัจฉริยะมี  “ เกียงจื๋อเง้ “ หรือเกียงไท้กง และหน่าจาซาไท้จื้อ องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อเป็นบุตรคนที่ 3 ของแม่ทัพหลี่เจ๋ง  กับ  นางฮิง  บุตรคนโตชื่อ “ กิมจา” และคนรองชื่อ “ บั่กจา ”  มารดาตั้งครรภ์หน่าจาเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน  จึงคลอด

 

หลังจากท้องแล้ว   หน่าจาแทนที่จะเป็นเด็กทารกดั่งเช่นเด็กทั่วไป  กลับเป็นก้อนเนื้อทรงกลม ๆ  ที่ห่อหุ้มไว้ด้วยเนื้อเยื่อและรกพันเต็มไปหมด  ยังความตกใจและประหลาดใจแก่แม่ทัพหลีเจ๋งและนางฮิง ผู้เป็นบิดา – มารดา ด้วยความประหลาดดังกล่าว   หลี่เจ๋งซึ่งเป็นบิดาจึงใช้กระบี่ฟันก้อนเนื้อ ปรากฎว่าภายในก้อนเนื้อนั้น  เป็นเด็กทารกเพศชาย  ซึ่งในมือขวาถือห่วงทองคำ  และรอบตัวพันด้วยผ้าแพรสีแดง  ยังความปิติยินดีให้กับครอบครัว  และขุนนางใหญ่น้อยได้มาแสดงความยินดีกับแม่ทัพหลี่เจ๋ง

 

ในขณะนั้นมีนักพรตท่านหนึ่งมีนามว่า “ ไท้อิกจิงยิ้ง” ซึ่งบำเพ็ญศีลภาวนาอยู่ ณ  ยอดเขาเคี่ยงง่วนซัว กิมกวงตัง มาร่วมแสดงความยินดีด้วย  และเมื่อได้เห็นบุคลิกลักษณะของเด็กน้อย  เกิดความชื่นชมในความเฉลียวฉลาด พร้อมกับได้ชี้แจงให้แม่ทัพหลี่เจ๋งและนางฮิงทราบว่า  ห่วงทองและผ้าแดงที่ติดตัวมานั้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์  เป็นผู้มีบุญญาบารมีสูงอีกทั้งได้รับตัวเด็กน้อยไว้เป็นศิษย์และตั้งชื่อให้ว่า “หน่าจา” เพื่อถ่ายทอดวิชา



reply
nongview February 14, 2011, 7:27 pm
พิธีไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ)
สำหรับในปี พ. ศ. 2554 (ปีเถาะ) ให้ทำการไหว้ ในคืนวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 23.00 – 24.59  น.  ในปีนี้ให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ


สิ่งของที่ใช้ในพิธีไหว้ มีดังนี้
1. โต๊ะสี่เหลี่ยม 1 ตัว   
2 . กระถางธูป (ถ้าไม่มีให้ใช้แก้วน้ำใส่ข้าวสาร)         
3. เทียนแดง 1 คู่                                       
4.  กิมฮวย 1 คู่   
5. แจกันพร้อมดอกไม้ (ดอกไม้มงคล)      
6. กิมซิง (รูปปั้น องค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย) มีหรือไม่มีก็ได้

เครื่องบวงสรวงมีรายการดังต่อไปนี้
1. น้ำเปล่า 5 ถ้วย           
2. น้ำชา 5 ถ้วย              
3. ข้าวอัด  5 ถ้วย             
4. สาคูแดง 5 ถ้วย
5. เจฉ่าย 5อย่าง 1ถาด    
6.ผลไม้ 5อย่าง 1ถาด (กล้วยหอม 1 หวี, สัปปะรด 1 หัว,ส้ม,องุ่น,แอ๊ปเปิ้ล)
7. ซิ่วท้อ 1 จาน             
8. ฮวกก้วย 1 ถาด           
9. ซิ่วหมี่ 1 จาน               
10. จับกิ่ม 1 จาน
11. น้ำตาลกรวด 1 จาน                                       
12. ถั่ว 5 อย่าง (ถั่วเขียว , ถั่วเหลือง , ถั่วลิสง , ถั่วแดงเม็ดเล็ก , ถั่วแดงเม็ดใหญ่)
หมายเหตุ  ฮวกก้วย และ  ซิ่วหมี่  มีหรือไม่มีก็ได้

เครื่องกระดาษที่ต้องใช้ มีดังนี้
1. เทียงเถ้าจี้ 1 ชุด            
2. งิ่งเตี๋ย 5 แผ่น            
3. 12 ไป่เทียบ 5 แผ่น             
4. คิ่วไฉ่จี้ 5 แผ่น
5. กุ้ยนั่งจี้ 5 แผ่น             
6. เผ่งอังจี้ 5 แผ่น          
7. เต้า 1คู่                                
8. หง่วงป้อ 5 ชุด พร้อม ตั่วกิมพับเป็นรูปทองก้อน 12 แผ่น
9. ชุดฉลองพระองค์ 1 ชุด หรือ 5 ชุดก็ได้            
(มีหรือไม่มีก็ได้)
 
สำหรับทิศที่ให้ไหว้ในปีนี้    ให้หันหน้าองค์กิมซิงไฉ่ซิงเอี๊ยไปทางทิศใต้ หรือถ้าไม่ตรงทิศให้หันหน้าเข้าบ้าน (ถ้ามี) โดยอธิษฐานพระนามของพระองค์ว่า “ปั๊กฮัง”  และ “ เอี้ยวเซียวซีไฉ่ซิ้ง ” เมื่อทำพิธีไหว้เสร็จแล้วให้นำเครื่องกระดาษไปเผาได้เลย



Load more...