“หอพระแก้วมีอดีตที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ เช่น บัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฎก กลองสำริดโบราณ และบานประตูไม้แกะสลักรูปพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นของเก่าแก่ที่หลงเหลือมาแต่เดิม”
หอพระแก้ว (Haw Phra Kaew) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและสำคัญที่สุดของนครหลวงเวียงจันทน์ เดิมทีถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2108 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เพื่อใช้เป็นวัดหลวงและเป็นที่ประดิษฐานขององค์ พระแก้วมรกต ซึ่งพระองค์ได้อัญเชิญมาจากนครเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2322 พระแก้วมรกตได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่กรุงเทพฯ ส่วนหอพระแก้วแห่งนี้ก็ถูกทำลายลงในเวลาต่อมา ตัวอาคารที่เราเห็นในปัจจุบันนี้เป็นผลจากการบูรณะและก่อสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี พ.ศ. 2480-2483 โดยคงรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิมไว้เกือบทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมลาวในยุคสมัยนั้น
แม้จะไม่ได้ทำหน้าที่เป็นวัดอีกต่อไป แต่หอพระแก้วก็ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็น พิพิธภัณฑ์ศิลปะทางศาสนา ที่จัดแสดงโบราณวัตถุและงานศิลปะอันล้ำค่าของลาว ทั้งพระพุทธรูปโบราณและวัตถุทางศาสนาอื่น ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและวัฒนธรรมอันยาวนานของประเทศ
การเยี่ยมชมหอพระแก้วจึงเป็นเหมือนการเดินทางย้อนเวลา เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์และชื่นชมความงดงามทางศิลปะของชาวลาวได้อย่างเต็มที่
วิธีการเดินทาง
-
หอพระแก้วตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเวียงจันทน์ ใกล้กับวัดสีสะเกด และไม่ไกลจากแม่น้ำโขง
-
สามารถเดินทางด้วยรถตุ๊กตุ๊ก หรือรถสามล้อเครื่องจากตัวเมืองได้อย่างสะดวก
คำแนะนำ
-
ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อยเมื่อเข้าชมสถานที่ทางศาสนา เช่น เสื้อที่มีแขน กางเกงหรือกระโปรงยาวคลุมเข่า
-
ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ แต่สามารถถ่ายรูปภายนอกและบริเวณสวนได้
ค่าเข้าชม: คนละ 10,000 กีบ
เปิดเวลาเข้าชม ตั้งแต่เวลา: 08.00 – 12.00 น., 13.00 น. - 16.00 น.