“เสน่ห์ของวิถีชีวิตชาวมุสลิมที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ความสวยงามของท้องฟ้ายามเย็น และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรขึ้นชื่ออย่างแตงโมตอปิโด”
เกาะสุกร (Ko Sukorn) หรือที่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวบางส่วนเรียกติดปากว่า เกาะหมู เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ในเขตอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง แม้จะมีชื่อเป็น “เกาะหมู” แต่ด้วยความที่ประชากรบนเกาะเกือบทั้งหมดกว่า 2,500–3,000 คน นับถือศาสนาอิสลาม ทำให้วิถีชีวิตบนเกาะดำเนินไปอย่างเรียบง่ายตามหลักศาสนาและประเพณี โดยไม่มีการเลี้ยงหมูหรือสุนัขบนเกาะเลย
เกาะสุกรเป็นเกาะที่อยู่ใกล้ชายฝั่งเพียงประมาณ 3 กิโลเมตร แต่กลับมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างจากเกาะท่องเที่ยวทั่วไปอย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชนอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำสวนยางพารา และทำการเกษตร นอกจากทะเลแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะยังเป็นทุ่งนาและสวนผลไม้ที่เขียวขจีตลอดทั้งปี ทำให้ภูมิทัศน์ของเกาะมีความหลากหลายและน่าประทับใจ ความเป็นมิตรและความจริงใจของชาวบ้านทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นตลอดการพักผ่อน
จุดเด่นสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับเกาะสุกรคือผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะแตงโมตอปิโดซึ่งเป็นแตงโมพันธุ์ดี รูปร่างเรียวยาวคล้ายตอร์ปิโด รสชาติหวานฉ่ำ ชาวบ้านบางส่วนปลูกแตงโมบนผืนทรายใกล้ชายทะเลจนเกิดพื้นที่ที่เรียกว่าหาดแตงโม นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจึงไม่ควรพลาดการลิ้มลองผลไม้ขึ้นชื่อชนิดนี้ นอกจากนี้ เกาะสุกรยังขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพของท้องฟ้ายามเย็นที่งดงามเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนเมษายน
กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะคือการเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยาน ขี่เที่ยวชมรอบเกาะอย่างสบาย ๆ แวะเยี่ยมชมหมู่บ้าน ชิมอาหารพื้นถิ่นที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารจีนและมาเลเซีย เช่น ติ่มซำ รวมถึงอาหารทะเลสดใหม่จากเรือประมงพื้นบ้าน นอกจากนี้ เกาะสุกรยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเช่าเรือไปดำน้ำตื้นหรือเดินทางต่อไปยังเกาะใกล้เคียง เช่น เกาะเหลาเหลียง และเกาะตะเกียง
วิธีการเดินทาง
- การเดินทางไปเกาะสุกรเริ่มต้นที่ท่าเรือตะเสะ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง
มีเรือโดยสารรับส่งตลอดวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15–30 นาที ค่าโดยสารประมาณ 30–50 บาทต่อคน (อัตราอาจเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา)
คำแนะนำ
- การเดินทางบนเกาะสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานเพื่อเที่ยวชมรอบเกาะได้สะดวก
- บนเกาะมีที่พักให้เลือกทั้งโฮมสเตย์และรีสอร์ต
- ควรมาเที่ยวในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน เพื่อหลีกเลี่ยงมรสุมและชมวิวท้องฟ้าที่สวยงามที่สุด
ค่าเข้าชม:
- ไม่มีค่าเข้าชมเกาะ
เวลาเปิด–ปิด:
- สามารถเข้าชมและท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน