“ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่ได้รับชื่อว่า "มโหฬาร" ตามขนาดของโถงถ้ำ ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และเป็นสถานที่ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยจำพรรษาปฏิบัติธรรม โถงถ้ำหลักมีความสูงและกว้างใหญ่ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสความงดงามของหินงอกหินย้อยและความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ”
วัดถ้ำมโหฬารเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและศาสนสถานที่ผสานความงดงามของภูมิประเทศหินปูนกับความศรัทธาทางพุทธศาสนาไว้อย่างลงตัว ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดินในชั้นหินปูนมาเป็นเวลาหลายล้านปี ทำให้เกิดโพรงและโถงถ้ำขนาดมหึมา ลักษณะซับซ้อนและงดงามตามธรรมชาติ โดยมีอายุทางธรณีวิทยาประมาณกว่า 250 ล้านปี ถือเป็นหนึ่งในแหล่งธรณีที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย
บริเวณปากถ้ำจะมีบันไดนาคทอดยาวขึ้นไปยังทางเข้า ซึ่งมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้า ให้นักท่องเที่ยวได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเข้าสู่ภายในถ้ำ เมื่อเริ่มต้นสำรวจจะพบกับเส้นทางเดินแคบและคดเคี้ยวในระยะทางช่วงแรกประมาณ 100 เมตร เพิ่มความรู้สึกตื่นเต้นและลึกลับ ก่อนเข้าสู่โถงถ้ำหลักที่กว้างขวางและสูงใหญ่จนได้ชื่อว่า “มโหฬาร”
ภายในโถงมีความงดงามของหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างและสีสันหลากหลาย ทั้งลักษณะคล้ายม่านผ้า เสา โดม และทิวหินเรียงซ้อนที่ธรรมชาติสร้างขึ้นตลอดหลายล้านปี
นอกจากคุณค่าทางธรรมชาติแล้ว ถ้ำมโหฬารยังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนา เป็นสถานที่ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ครูบาอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐาน เคยใช้จำพรรษาและปฏิบัติธรรม ทำให้ถ้ำแห่งนี้เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ผู้แสวงบุญมักเดินทางมานมัสการและปฏิบัติธรรมเพื่อความสงบทางจิตใจ
ภายในถ้ำมีการประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองไว้บริเวณผนังกลางถ้ำ เป็นจุดสักการะสำคัญที่ผู้มาเยือนนิยมกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยรอบยังมีพระพุทธรูปและเจดีย์องค์เล็ก ๆ ประดิษฐานอยู่ในหลายมุม เพิ่มบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์และความสงบเย็น
ทางเดินภายในถ้ำได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าให้ส่องสว่างตลอดเส้นทางที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ทำให้สามารถเดินสำรวจได้อย่างปลอดภัย แต่บางช่วงของถ้ำมีเพดานต่ำและอากาศถ่ายเทน้อย จึงควรเดินด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านการหายใจหรือโรคประจำตัว
รอบบริเวณวัดและเชิงเขามีป่าธรรมชาติขนาดเล็กที่อุดมสมบูรณ์ มีพรรณไม้ป่า เช่น ไม้เต็งรัง ไม้ประดู่ และไม้ไผ่ ขึ้นแซมอยู่ทั่วไป เป็นพื้นที่สงบเงียบเหมาะแก่การทำสมาธิและพักผ่อนจิตใจ อีกทั้งในถ้ำยังเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวหลายพันตัว ซึ่งจะบินออกหากินในยามเย็น เป็นภาพที่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน
นอกจากการเข้าชมถ้ำเพื่อชมความงามของธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมทำบุญ สวดมนต์ หรือนั่งสมาธิในบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ วัดยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางธรรมของชุมชนในอำเภอหนองหิน มีการจัดกิจกรรมทางศาสนา เช่น งานวันมาฆบูชา วิสาขบูชา และเข้าพรรษาเป็นประจำทุกปี
ปัจจุบันวัดถ้ำมโหฬารได้รับการดูแลโดยพระสงฆ์และชาวบ้านในพื้นที่ มีการจัดระเบียบการท่องเที่ยวให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้มาเยือนได้ทั้งความรู้ ความสงบใจ และช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำให้คงอยู่ต่อไป
วิธีการเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัว: ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 จากตัวเมืองเลยไปอำเภอหนองหิน เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางลาดยางประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงวัดถ้ำมโหฬาร
- รถโดยสารสาธารณะ: รถทัวร์หรือรถตู้สายเลย–หนองหิน ลงที่อำเภอหนองหิน แล้วต่อรถท้องถิ่นหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างประมาณ 2 กิโลเมตร
คำแนะนำ
- ควรแต่งกายสุภาพ เนื่องจากเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
- แนะนำเข้าชมช่วงกลางวันเพื่อความปลอดภัยและสะดวก
- ระมัดระวังการเดินในโถงถ้ำที่แคบและทางเดินชื้น
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิด–ปิด
- เปิดทุกวัน ประมาณ 05.00–20.00 น.