“สถาปัตยกรรมแนวยุโรปผสมอินเดียที่หาชมได้ยากในมาเลเซีย มีจุดถ่ายรูปยอดนิยมทั้งภายในปราสาทและบริเวณรอบๆ ชื่นชมวิวแม่น้ำและพื้นที่โดยรอบที่สวยงาม”
ปราสาทเคลลี่ ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โด่งดังที่สุดในรัฐเปรัก มีต้นกำเนิดในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยวิลเลียม เคลลี่ สมิธ เป็นนักธุรกิจชาวสกอตที่ย้ายมาพำนักในมาเลเซียยุคอาณานิคม เขาสั่งสร้างปราสาทหลังนี้ในปี ค.ศ. 1915 เพื่อเป็นของขวัญให้กับภรรยาและครอบครัว รวมถึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของตนในดินแดนเอเชีย
สถาปัตยกรรมของปราสาทได้รับแรงบันดาลใจจากยุโรปผสมอินเดีย ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นสิ่งแปลกใหม่อย่างมาก ตัวอาคารออกแบบให้มีทั้งหมด 3 ชั้น และมีหอคอยชมวิว รวมถึงลิฟต์ส่วนตัวซึ่งถือเป็น ลิฟต์ตัวแรกของมาเลเซียในยุคนั้น ด้านในตกแต่งด้วยซุ้มประตูโค้ง ลวดลายหินอ่อน และช่องแสงแบบยุโรป
เคลลีได้ว่าจ้างช่างฝีมือจากอินเดียใต้ให้มาช่วยก่อสร้าง ปราสาทจึงมีเอกลักษณ์คล้ายวังของอินเดียในยุคอาณานิคม เช่น หน้าต่างโค้ง หอคอยทรงโดม และเสาคู่ที่ประดับลายละเอียดงดงาม อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ต้องหยุดชะงักลงอย่างกะทันหันเมื่อเกิดการระบาดของโรคสเปนฟลูในปี 1926 ทำให้คนงานจำนวนมากเสียชีวิต ขณะเดียวกัน เคลลีเองก็เสียชีวิตกะทันหันระหว่างเดินทางกลับยุโรป ปราสาทจึงถูกทิ้งให้รกร้างโดยยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์
ภายหลังสถานที่นี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนยุคโคโลเนียลของมาเลเซีย ภายในปราสาทนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้ทุกชั้น มีห้องนอน ห้องโถงรับแขก ห้องใต้ดิน และทางเดินลับที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่น ๆ ซึ่งยังคงเป็นปริศนา บนดาดฟ้าสามารถชมวิวแม่น้ำและป่ารอบด้านได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าตำนานความเชื่อเกี่ยวกับ “วิญญาณของเคลลี” ที่บางคนอ้างว่าเห็นชายในชุดขาวยืนอยู่ตามหน้าต่าง หรือเสียงฝีเท้าที่เดินอยู่ในห้องโถงเวลากลางคืน ปราสาทแห่งนี้จึงมีชื่อเสียงในฐานะ สถานที่ลึกลับที่สุดแห่งหนึ่งของมาเลเซีย และถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น Anna and the King และ The Ghost of Kellie’s Castle
ในปัจจุบัน พื้นที่รอบปราสาทได้รับการดูแลและจัดภูมิทัศน์ใหม่ มีลานจอดรถ ร้านขายของที่ระลึก และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง หรือชมสถาปัตยกรรมเก่าที่ยังคงงดงามเหนือกาลเวลา
วิธีการเดินทาง
-
จากเมืองอีโปห์ ใช้เวลาประมาณ 25–30 นาทีโดยรถยนต์ ผ่านทางโกเปงมุ่งหน้าไปบาตูการ์ จะเห็นป้าย “Kellie’s Castle” อยู่ทางขวามือ
-
หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถนั่งแท็กซี่จากสถานีรถไฟอีโปะห์ หรือจองทัวร์ท้องถิ่นแบบครึ่งวันได้
คำแนะนำ
-
ควรมาช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อน
-
บริเวณภายในมีจุดให้ขึ้นชมวิว ควรสวมรองเท้าที่กันลื่น
-
ห้ามเข้าเขตหวงห้ามหรือปีนป่ายจุดอันตราย
-
ช่วงเทศกาลอาจมีงานแสดงและกิจกรรมย้อนยุคเกี่ยวกับยุคอาณานิคม
-
สำหรับคนชอบถ่ายภาพแนววินเทจ แนะนำให้มาช่วงแสงเย็นจะได้โทนภาพที่สวยมาก
ค่าเข้าชม :
-
ชาวมาเลเซีย: ผู้ใหญ่ RM5, เด็ก (อายุ 4-12 ปี) RM3
-
ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ RM10, เด็ก (อายุ 4-12 ปี) RM8
เวลาเปิดปิดทำการ :
-
เปิดทุกวัน 09.00–18.00 น.
หมายเหตุ: อาจปิดชั่วคราวในวันหยุดนักขัตฤกษ์บางวัน กรุณาตรวจสอบก่อนเดินทาง