“ทุ่งนาขั้นบันไดที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของความเขียวขจีที่สลับซับซ้อน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO จากการใช้ระบบชลประทานแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า "สุบัก" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของบาหลี”
นาขั้นบันไดจาติลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces) เป็นหนึ่งในภาพสัญลักษณ์ทางธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดของเกาะบาหลี ชื่อของสถานที่นี้มีความหมายว่า "ความงามที่แท้จริง" ซึ่งสะท้อนถึงทัศนียภาพอันน่าทึ่งที่แผ่ขยายออกไปสุดสายตา ทุ่งนาเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งผลิตอาหาร แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ตามปรัชญา Tri Hita Karana ที่มุ่งเน้นความสมดุลและความกลมกลืนระหว่างโลกของจิตวิญญาณ มนุษย์ และธรรมชาติ
สิ่งที่ทำให้จาติลูวีห์มีความพิเศษอย่างแท้จริงคือการเป็นส่วนหนึ่งของระบบชลประทานแบบดั้งเดิมของบาหลีที่เรียกว่า "สุบัก" ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 2012 ระบบสุบักเป็นระบบบริหารจัดการน้ำตามหลักการทางศาสนาที่สืบทอดกันมาหลายศตวรรษ แสดงถึงความร่วมมือของชุมชนในการแบ่งปันและจัดการน้ำอย่างยั่งยืนเพื่อการเพาะปลูกข้าว นอกจากนี้ ภูมิประเทศของนาขั้นบันไดยังมีความโดดเด่นด้วยการไล่ระดับความสูงต่ำอย่างงดงามบนเนินเขาที่ทอดยาว ทำให้เกิดเป็นภาพวาดสีเขียวที่เคลื่อนไหวตามสายลม
การมาเยือนจาติลูวีห์เป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบชนบทที่สงบเงียบและเรียบง่าย คุณสามารถเดินเท้าไปตามคันนาที่ทอดตัวยาวหลายกิโลเมตร สูดอากาศบริสุทธิ์ และชมกิจกรรมการทำนาของเกษตรกรในท้องถิ่น ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือระหว่างการปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวที่ทุ่งนาจะเต็มไปด้วยสีเขียวสดใสหรือสีทองอร่าม บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยความเงียบสงบและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง มอบความรู้สึกผ่อนคลายจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน
ด้วยทัศนียภาพที่กว้างขวางและมีแสงที่เปลี่ยนแปลงตลอดวัน สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสวรรค์ของช่างภาพ และเป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับคู่รักที่มองหาสถานที่โรแมนติกและเงียบสงบ รวมถึงศิลปินและนักวาดภาพที่ต้องการแรงบันดาลใจจากความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ การได้เห็นความทุ่มเทของเกษตรกรในการดูแลทุ่งนาอันกว้างใหญ่นี้คือการได้เห็นศิลปะที่มนุษย์สร้างสรรค์ร่วมกับธรรมชาติ
จาติลูวีห์เป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นหน้าต่างสู่จิตวิญญาณและภูมิปัญญาอันเก่าแก่ของบาหลี เป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนซึ่งจะทำให้คุณประทับใจในความมหัศจรรย์ของโลก
วิธีการเดินทาง
-
รถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่าพร้อมคนขับ: เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เนื่องจากจาติลูวีห์อยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวหลักในภาคใต้ของบาหลี (เช่น กุตา, เซมินยัก) ประมาณ 2 ชั่วโมง
-
แท็กซี่หรือบริการรถยนต์รับจ้าง (เช่น Grab/Gojek): เหมาะสำหรับการเดินทางแบบไป-กลับในวันเดียว แต่ควรเตรียมการนัดเวลากลับล่วงหน้า เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเรียกยาก
-
ทัวร์แบบรวม: จาติลูวีห์มักรวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์วันเดียวทางฝั่งตะวันตกของบาหลี
คำแนะนำ
-
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม: ช่วง มีนาคมถึงพฤษภาคม และ กันยายนถึงพฤศจิกายน เป็นช่วงที่นาข้าวจะมีความเขียวขจีมากที่สุด (ขึ้นอยู่กับรอบการปลูกข้าว) ควรตรวจสอบรอบการเก็บเกี่ยวล่วงหน้าเพื่อให้ได้ภาพทุ่งนาที่สวยที่สุด
-
รองเท้า: สวมรองเท้าที่ใส่สบายและเหมาะสำหรับการเดิน เช่น รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าเดินป่า เนื่องจากคุณจะต้องเดินบนคันนาที่เป็นดิน
-
การถ่ายภาพ: แสงที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพคือช่วงเช้าตรู่ก่อน 10:00 น. หรือช่วงบ่ายแก่ๆ หลัง 15:00 น. เพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า พกหมวกและครีมกันแดด
-
อาหารและเครื่องดื่ม: มีร้านอาหารท้องถิ่นเล็กๆ (Warungs) ให้บริการอาหารบาหลีและอินโดนีเซียพร้อมวิวทุ่งนา ควรลองชิม กาแฟและอาหารท้องถิ่น
-
การเดินทาง: ถนนสู่จาติลูวีห์มีความคดเคี้ยวและแคบในบางช่วง ควรเดินทางด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการขับขี่หลังพลบค่ำ
ค่าเข้าชม:
- ผู้ใหญ่ชาวอินโดนีเซีย: 10,000 IDR (โดยประมาณ)
- นักท่องเที่ยวต่างชาติ: 50,000 IDR (โดยประมาณ)
- ค่าธรรมเนียมรถเข้าพื้นที่: ประมาณ 5,000 - 20,000 IDR(โดยประมาณ)
เวลาเปิด-ปิด:
- เปิดทำการทุกวัน: 08:00 น. - 18:00 น.