“การชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว Pananjakan เพื่อมองเห็นทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟสามลูก โบรโม่, บาต็อก, เซเมรู ล้อมรอบด้วยทะเลหมอกและสันทรายอันกว้างใหญ่”
ภูเขาไฟโบรโม่ (Mount Bromo) เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติโบรโม่-เต็งเกอร์-เซเมรู บนเกาะชวาตะวันออก ภูเขาไฟแห่งนี้มีความสูง 2,329 เมตร เป็นภูเขาไฟที่มีพลังและยังคงมีการปะทุอย่างสม่ำเสมอ ความสวยงามที่แตกต่างคือการตั้งอยู่ในแอ่งยุบปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ทะเลทรายลาวา หรือ ทะเลทราย
ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นจากจุดชมวิว เช่น Penanjakan 1 หรือ King Kong Hill ซึ่งให้ทัศนียภาพของภูเขาไฟโบรโม่, ภูเขาไฟบาต็อกและภูเขาไฟเซเมรูที่เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในชวา จากนั้นเดินทางข้ามทะเลทรายลาวาเพื่อปีนบันไดขึ้นไปยังขอบปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่ ที่คุณสามารถมองเห็นกลุ่มควันกำมะถันลอยออกมาได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าเต็งเกอร์ซึ่งเป็นชาวฮินดูที่แยกตัวออกมาและยังคงรักษาประเพณีทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟไว้
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาถึงจุดชมวิวตั้งแต่เวลาประมาณ 03:00 น. เพื่อรอชมแสงแรกของวัน การเดินทางมักใช้รถ Jeep 4x4 ในการข้ามพื้นที่ทรายไปยังจุดชมวิวและปากปล่องภูเขาไฟ อากาศในช่วงเช้ามืดจะหนาวเย็นจัด อุณหภูมิอาจต่ำกว่า 10°Cซึ่งเพิ่มความรู้สึกของการผจญภัยในพื้นที่สูง เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ทิวทัศน์ของทะเลหมอกที่โอบล้อมยอดเขานั้นเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจอย่างแท้จริง
ภูเขาโบรโม่เป็นสถานที่ที่โดนใจสำหรับช่างภาพทิวทัศน์และผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยอย่างแท้จริง ด้วยองค์ประกอบของแสงที่สวยงามในยามเช้า, โครงสร้างภูเขาไฟที่แปลกตา, และพื้นผิวทะเลทรายลาวาที่แห้งแล้งและเวิ้งว้าง ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินที่ต้องการบันทึกความงามของธรรมชาติที่ยังคงความดิบและความทรงพลังไว้การเยี่ยมชมภูเขาโบรโม่เป็นการเดินทางที่ผสมผสานความท้าทายทางกายภาพเข้ากับรางวัลทางสายตาที่ไม่มีวันลืมเลือน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจของพระเจ้า แห่งเกาะชวา
วิธีการเดินทาง
- เครื่องบินและรถเช่า/รถบัส (Plane and Rental Car/Bus): บินไปยังสนามบิน Juanda (SUB) ที่สุราบายาจากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์เช่าส่วนตัวหรือรถบัสสาธารณะ/รถตู้ ไปยังเมืองโปรโบลิงโก้ หรือมาลังก่อนจะเดินทางไปยังหมู่บ้านที่พักใกล้โบรโม่
- รถ Jeep 4x4: การเดินทางจากหมู่บ้านไปยังจุดชมวิว Pananjakan และข้ามทะเลทรายลาวาเพื่อไปยังปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่ ต้องใช้บริการรถ Jeep 4x4 ซึ่งมักจะจองผ่านบริษัททัวร์หรือที่พัก
- เดินหรือขี่ม้า : เมื่อรถ Jeep จอดที่ ทะเลทรายลาวา สามารถเดินเท้า หรือเช่าม้าขี่เป็นระยะทางสั้นๆ เพื่อไปยังบันไดทางขึ้นปากปล่องภูเขาไฟ
คำแนะนำ
- ฤดูที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม: ฤดูแล้งระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม มีโอกาสเจอฟ้าใสและทัศนวิสัยที่ดีที่สุดสำหรับการชมพระอาทิตย์ขึ้น
- การแต่งกายและอุปกรณ์: เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวที่อบอุ่นหลายชั้น ถุงมือ หมวก และผ้าพันคอ เนื่องจากอุณหภูมิจะลดต่ำมากในช่วงเช้ามืด และควรมีผ้าปิดจมูกหรือหน้ากากอนามัยสำหรับป้องกันควันกำมะถันและฝุ่น
- การถ่ายภาพ : ขาตั้งกล้องมีความสำคัญมากสำหรับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงแสงน้อย และควรมาถึงจุดชมวิวอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเพื่อจับจองพื้นที่
- การเดินทางและที่พัก : ควรจองที่พักในหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น Cemoro Lawang เพื่อให้เดินทางไปถึงจุดชมวิวได้ทันเวลาตี 3 และการจองทัวร์ Jeep ล่วงหน้าจะช่วยให้การเดินทางราบรื่น
- สุขภาพและความปลอดภัย : บริเวณปากปล่องภูเขาไฟไม่มีรั้วกั้น ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการเดินบนขอบปล่อง และไม่ควรสูดดมควันกำมะถันเป็นเวลานาน
ค่าเข้าชม:
- ผู้เยี่ยมชมชาวต่างชาติ: ราคาผู้ใหญ่และเด็กเท่ากัน 255,000 IDR
เวลาเปิด-ปิด:
- อุทยานแห่งชาติเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดทั้งปี ยกเว้นวันหยุดทางศาสนาเฉพาะกิจ
- เวลาแนะนำสำหรับการเข้าชม: เริ่มต้นเดินทางออกจากที่พักประมาณ 03:00 น. เพื่อไปถึงจุดชมวิว