“จุดเด่นสำคัญของที่นี่คือทะเลสาบภูเขาไฟสามแห่งบนยอดภูเขาไฟคีลีมูตู ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่หาได้ยากและสวยงามตระการตา”
อุทยานแห่งชาติคีลีมูตู(Kelimutu National Park) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสถานที่ที่มี ทะเลสาบภูเขาไฟสามแห่ง ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่บนยอด ภูเขาไฟคีลีมูตู บนเกาะฟลอเรส การเดินเท้าขึ้นไปนั้นไม่ยากลำบากเกินไป และวิวทิวทัศน์ระหว่างทางและจากยอดเขานั้นสวยงามจับใจ ทะเลสาบทั้งสามแห่ง เกิดจากการสะสมของแร่ธาตุและปฏิกิริยาเคมีจากก๊าซภูเขาไฟที่ปล่อยออกมาจากปล่องใต้ทะเลสาบ ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีอย่างไม่คาดคิด
จุดที่น่าทึ่งที่สุดคือทะเลสาบทั้งสามแห่งมีชื่อเรียกตามภาษาถิ่นของ ชาวลีโอ ผู้นับถือความเชื่อท้องถิ่น โดยเชื่อว่าทะเลสาบเหล่านี้คือ ที่พักผ่อนสุดท้ายของดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ ได้แก่ ทะเลสาบของวิญญาณคนแก่, ทะเลสาบของวิญญาณหนุ่มสาว, และ ทะเลสาบของวิญญาณชั่วร้าย การเปลี่ยนสีของน้ำในแต่ละทะเลสาบ ตั้งแต่สีฟ้า สีเขียวมรกต สีดำ ไปจนถึงสีน้ำตาลแดง ถูกตีความโดยชาวบ้านว่าเป็น การสะท้อนถึงอารมณ์หรือสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ หรือการเคลื่อนย้ายของดวงวิญญาณ
ในทาง ธรณีวิทยา คีลีมูตูมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากทะเลสาบทั้งสามตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟเดียวกัน แต่มีองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ค่า pH ที่ต่ำ (ความเป็นกรดสูง) ของน้ำในทะเลสาบและปริมาณก๊าซภูเขาไฟ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไฮโดรเจนซัลไฟด์ เป็นปัจจัยหลักที่กำหนดสีของน้ำ การเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างโลหะ ก๊าซ และน้ำ จึงทำให้เกิด ปรากฏการณ์สีที่ไม่คงที่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ดึงดูดนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก
การมาเยือนในช่วง พระอาทิตย์ขึ้น เป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นักท่องเที่ยวควรมาถึงตั้งแต่ก่อนรุ่งสางเพื่อรอชมแสงแรกที่สาดส่องลงบนทะเลสาบที่เปลี่ยนสี บรรยากาศจะ เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ ทำให้รู้สึกถึงพลังของธรรมชาติอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ในบริเวณอุทยานยังเป็นที่อยู่อาศัยของ สัตว์ป่าและพืชพรรณเฉพาะถิ่น เช่น นกสายพันธุ์หายาก และยังสามารถเยี่ยมชม หมู่บ้านวัฒนธรรมวอโลไก (Wologai Traditional Village) ของชาวลีโอที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตและพิธีกรรมโบราณ
คีลีมูตูจึงเป็นสถานที่ที่รวมเอา ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ความลึกลับทางตำนาน และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เป็นสวรรค์สำหรับ ช่างภาพและผู้รักธรรมชาติ ที่ต้องการบันทึกภาพความงามของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก รวมถึงผู้ที่สนใจ ธรณีวิทยา และวัฒนธรรมท้องถิ่นขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาสัมผัส ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ทางธรรมชาติและตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ ของทะเลสาบสามสีที่คีลีมูตูด้วยตัวคุณเอง
วิธีการเดินทาง
-
เดินทางโดยเครื่องบินไปยัง เมืองเอนเด (Ende) บนเกาะฟลอเรส จากนั้นต่อรถยนต์หรือรถบัสไปยังหมู่บ้านโมนิ
-
เดินทางโดยเครื่องบินไปยัง เมืองมาอูเมเร (Maumere) จากนั้นต่อรถยนต์หรือรถบัสไปยังหมู่บ้านโมนิ
-
จากหมู่บ้าน โมนิ (Moni) ซึ่งเป็นจุดพักหลัก ต้องต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างหรือเช่ารถยนต์เพื่อเดินทางไปยังจุดจอดรถของอุทยาน แล้วจึงเดินขึ้นเขาต่อไป
คำแนะนำ
-
ฤดูท่องเที่ยวที่ดีที่สุด: ช่วง เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ซึ่งเป็นฤดูแล้ง อากาศแจ่มใสและมีโอกาสเห็นสีทะเลสาบได้ชัดเจนที่สุด ควรหลีกเลี่ยงช่วงฤดูฝน (ธันวาคม-มีนาคม)
-
เครื่องแต่งกาย: ควรเตรียม เสื้อผ้าหลายชั้น เนื่องจากอากาศบนยอดเขาหนาวเย็นในช่วงเช้ามืด และอย่าลืม รองเท้าเดินป่าที่ทนทาน
-
เคล็ดลับการถ่ายภาพ: ควรมาถึง ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อจับภาพแสงแรกที่ตกกระทบทะเลสาบและแสงสีที่เปลี่ยนไป
-
อาหารและที่พัก: พักค้างคืนที่หมู่บ้าน โมนิ ซึ่งมีที่พักและร้านอาหารท้องถิ่นให้บริการ ไม่ควรนำขยะติดตัวกลับออกมา และ เคารพความเชื่อ ของคนท้องถิ่น
-
การวางแผนเดินทาง: ควรเช่ารถพร้อมคนขับจากเมืองเอนเดหรือมาอูเมเร เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
ค่าเข้าชม:
-
ชาวอินโดนีเซีย: ผู้ใหญ่ 5,000 IDR , เด็ก 2,000 IDR
-
ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 150,000 IDR ในวันธรรมดา และ 225,000 IDR ในวันหยุด
- อัปเดต 2024 โดยกระทรวงป่าไม้และสิ่งแวดล้อมอินโดนีเซีย
เวลาเปิด-ปิด:
-
โดยทั่วไป: เปิดทุกวัน 04:30 น. - 17:00 น.
-
ข้อควรทราบ: จุดชมวิวที่ทะเลสาบมักจะอนุญาตให้เข้าถึงได้ตั้งแต่ ก่อนรุ่งสาง เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น และโดยทั่วไปห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวอยู่ที่ทะเลสาบหลังจาก 17:00 น.