“เจดีย์เล่ห์ทัตจีเป็นวัดเก่าแก่ในเขตพุกามที่โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปประทับนั่งขนาดใหญ่ สไตล์พุกามยุคหลัง สงบน่าเที่ยว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมพระพุทธรูปทรงศิลป์พิเศษและวิจิตรแบบดั้งเดิมของพม่า”
เจดีย์เล่ห์ทัตจี (Lay Htat Gyi Pagoda) เป็นวัดที่นักท่องเที่ยวหลายคนมักมองข้าม เนื่องจากไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าวัดใหญ่ในพุกาม แต่ความจริงแล้ว ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สะท้อน “จิตวิญญาณของงานพุทธศิลป์พม่า” ได้อย่างงดงาม โดยจุดเด่นที่สุดคือ พระพุทธรูปประทับนั่งองค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่ภายในวิหารอิฐโบราณ ซึ่งแสดงลักษณะทางศิลปะพม่ายุคหลังที่ปรับเปลี่ยนจากศิลปะพุกามดั้งเดิมให้มีความอ่อนช้อยและละเอียดมากขึ้น
ความเป็นมาของวัด
แม้ข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับปีที่สร้างจะมีจำกัด แต่เจดีย์เล่ห์ทัตจีถือว่าอยู่ในกลุ่ม “วัดหลังยุคพุกามตอนปลาย” ซึ่งมีการบูรณะครั้งสำคัญในช่วงศตวรรษหลัง ๆ ตามสไตล์การปรับปรุงวัดแบบพม่า โดยยังคงจัดวางโครงสร้างตามผังวิหารอิฐแบบดั้งเดิม แต่เพิ่มความโดดเด่นให้กับองค์พระภายในเพื่อให้เป็นศูนย์กลางศรัทธาของชุมชนท้องถิ่น
องค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ – หัวใจของวัด
ภายในวิหารคือพระพุทธรูปประทับนั่งที่มีขนาดใหญ่และสง่างาม ด้านศิลปะมีจุดสังเกตที่โดดเด่นดังนี้
-
พระพักตร์อิ่มเอิบและดูอ่อนโยน สะท้อนสไตล์พม่าแท้
-
ลำตัวและองค์พระมีความล่ำสันกว่าแบบพุกามดั้งเดิม ทำให้องค์พระดูมั่นคง
-
มือและพระหัตถ์ประดิษฐานอย่างมีสัดส่วนและสร้างความรู้สึกสงบ
-
องค์พระมักทาสีขาวหรือขาวนวลตัดกับจีวรสีทอง ช่วยให้ภาพรวมสว่างไสว
-
เมื่อแสงธรรมชาติส่องเข้ามาจากด้านหน้า องค์พระจะส่องประกายเป็นพิเศษ ทำให้ภาพถ่ายออกมาสวยเป็นพิเศษ
ขนาดและสัดส่วนขององค์พระทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึง “ความศักดิ์สิทธิ์แบบสงบ” มากกว่าความยิ่งใหญ่หวือหวา เป็นเสน่ห์เฉพาะของวัดนี้
ตัววิหารอิฐโบราณและโครงสร้างภายใน
ตัววิหารมีความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง สร้างจากอิฐแบบพุกามที่มีเอกลักษณ์
-
ผนังด้านในหนาและเย็น ช่วยลดอุณหภูมิแม้ในวันที่อากาศร้อน
-
ช่องหน้าต่างและช่องอากาศถูกวางตำแหน่งเพื่อให้รับแสงธรรมชาติในช่วงเช้าและบ่าย
-
พื้นภายในกว้างพอให้เดินชมรอบองค์พระได้
-
บางส่วนของผนังและฐานยังคงเห็นร่องรอยของลวดลายปูนปั้นโบราณ
-
บริเวณทางเดินด้านหลังองค์พระมีความสงบเป็นพิเศษ มีผู้ไปรวมพลังสวดมนต์เป็นครั้งคราว
ถึงจะไม่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังมากเท่าวัดเก่าใหญ่ๆ แต่บรรยากาศ “เรียบแต่ขลัง” ทำให้ที่นี่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายกว่า และเป็นจุดที่เหมาะกับการนั่งสมาธิหรือพักจากแสงแดดพุกาม
สภาพแวดล้อมรอบวัด
ภายนอกวัดตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่โล่งของพุกามที่เต็มไปด้วยต้นไม้เตี้ยและดินแดง
-
มีลมพัดแรงในหลายฤดูกาล ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบาย
-
นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ จึงมีความสงบมาก
-
บางมุมสามารถมองเห็นยอดเจดีย์เล็ก–ใหญ่ของพุกามบริเวณใกล้เคียง
-
บริเวณทางเข้ามีร้านค้าหรือแผงเล็กๆ บางวัน แต่ไม่พลุกพล่าน
ถ้ามาถึงช่วงเย็น แสงอาทิตย์จะกระทบกำแพงอิฐและองค์พระด้านใน ทำให้ได้ภาพที่มีเฉดสีทองอ่อนงดงามมาก
วิธีการเดินทาง
-
รถแท็กซี่/รถตุ๊กตุ๊ก – สะดวกและรวดเร็ว ใช้เวลา 10–15 นาที
-
E-bike/จักรยานไฟฟ้า – เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวสายผจญภัย ประหยัดและสามารถจอดใกล้วิหารได้
-
จักรยานธรรมดา – ขี่ชิลๆ ผ่านถนนดินแดงและถนนคอนกรีต ใช้เวลา 15–20 นาที
คำแนะนำ
-
ไปช่วงเช้าหรือช่วงบ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อน
-
ควรถอดรองเท้าก่อนเข้าวิหาร (กฎมาตรฐานของวัดในเมียนมา)
-
ควรพกน้ำดื่มและหมวก เนื่องจากอากาศที่พุกามค่อนข้างแรง
-
ถ่ายภาพพระพุทธรูปต้องใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อเก็บองค์พระเต็มภาพ
-
หากใช้ E-bike ควรตรวจแบตก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน
ค่าเข้าชม:
- ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิดปิดทำการ:
- เนื่องจากเกิดเหตุแผ่นดืนไหวเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 ทำให้แหล่งท่องเที่ยวเกิดความเสียหายและพังทลายลงมา ในตอนนี้จึงไม่สามารถเข้าชมได้