หน้าแรก > ฟิลิปปินส์ > มินโดโรตะวันตก > ซาบลายัน > อุทยานธรรมชาติแนวปะการังอาโป

“แนวปะการังขนาดใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ และอันดับสองของโลก จุดดำน้ำระดับโลก มีทั้งปะการังและฝูงปลาหลากสี มีเต่าทะเลและฉลามวาฬบางชนิดให้พบเห็น เหมาะสำหรับดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก บริเวณเกาะรอบ ๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและถ่ายภาพ”

อุทยานธรรมชาติแนวปะการังอาโป (Apo Reef Natural Park) ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของเกาะมินโดโร เป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 34,000 เฮกตาร์ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือได้รับการยอมรับว่าเป็น แนวปะการังต่อเนื่องที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจาก Great Barrier Reef และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น พื้นที่นำร่อง มรดกโลกขององค์การยูเนสโก

แนวปะการังนี้มีสุขภาพดีเป็นพิเศษ มีทั้งปะการังแข็งและปะการังอ่อน รวมถึงสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลหลากหลายชนิด ที่นี่เป็นแหล่งอาหารและแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญ ทำให้มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการพบปะกับสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ เช่น ปลาฉลามหูดำ (White Tip Sharks), ปลาฉลามครีบเทา, ปลาน้ำดอกไม้ (Barracudas), และ ปลากระเบนราหู (Manta Rays) ตามฤดูกาล

นักดำน้ำสามารถสังเกตปลาหลากสีสัน เต่าทะเล และสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ท่ามกลางฉากหลังของปะการังที่สวยงาม สภาพการดำน้ำนั้นยอดเยี่ยม โดยมีน้ำทะเลใส (ทัศนวิสัยมักจะเกิน 30 เมตร) และมี การดำน้ำแบบแนวกำแพง และจุดดรอปออฟที่น่าทึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับนักดำน้ำทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์

การเดินทางไปยังอุทยานจำเป็นต้องใช้เรือเช่าเหมาลำจากเมืองซาบลาหยาน จังหวัดมินโดโรตะวันตก ซึ่งเป็นจุดเข้าหลัก การเดินทางด้วยเรือใช้เวลา 3 ถึง 5 ชั่วโมง แต่ความบริสุทธิ์ของน้ำทะเลและแนวปะการังอันน่าทึ่งทำให้การเดินทางคุ้มค่า เกาะอาโป ซึ่งเป็นเกาะหลักในอุทยาน มี ประภาคาร และ สถานีเจ้าหน้าที่อุทยาน ที่นักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นประภาคารเพื่อชมทิวทัศน์ 360 องศาอันน่าทึ่งของแนวปะการังทั้งหมด

ปะการังอาโปเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและความสำเร็จในการอนุรักษ์ ซึ่งเป็นแบบอย่างระดับโลกสำหรับการคุ้มครองทางทะเลเขตร้อน ผู้มาเยือนได้รับการสนับสนุนอย่างยิ่งให้ปฏิบัติตามกฎของอุทยาน เช่น การไม่เก็บเกี่ยวสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลหรือปะการัง และการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ไม่ทำลายแนวปะการัง

วิธีการเดินทาง

จากเมืองซาบลายัน ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 4–5 ชั่วโมงไปยังอุทยาน มีเรือท้องถิ่นและทัวร์ให้บริการ

คำแนะนำ

ควรเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำ เสื้อชูชีพ กล้องใต้น้ำ และเงินสดสำหรับค่าใช้จ่ายภายในอุทยาน การเดินทางช่วงฤดูแล้ง (เดือนมีนาคม–พฤษภาคม) จะทำให้ทะเลสงบและน้ำใสที่สุด

ค่าเข้าชม