เกาะมุก (Koh Muk) เป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับสามในท้องทะเลตรัง มีภูเขาหินปูนและหน้าผาสูงชัน แต่ก็ยังมีชายหาดที่สวยงามและน้ำทะเลใสสะอาด เกาะมุกนับเป็นเกาะที่มีความเป็นชุมชนสูง โดยมี ชุมชนบ้านเกาะมุก ซึ่งเป็นชาวประมงพื้นถิ่นตั้งถิ่นฐานอยู่ และมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

จุดเด่นที่สำคัญที่สุด คือ ถ้ำมรกต (Tham Morakot) ซึ่งถือเป็นประตูสู่โลกอีกใบ การเข้าชมถ้ำต้องว่ายน้ำเข้าไปตามโพรงถ้ำที่มืดมิดและคดเคี้ยวประมาณ 80 เมตร ในช่วงที่ระดับน้ำทะเลลดต่ำลงเท่านั้น เมื่อพ้นปากถ้ำ จะพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีปล่องเปิดรับแสงอาทิตย์เบื้องบน หาดทรายภายในถ้ำมีสีขาวละเอียดล้อมรอบด้วยผาหินปูนสูงใหญ่ เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาจะเกิดประกายสีเขียวมรกตงดงามตามชื่อ

นอกจากถ้ำมรกตแล้ว เกาะมุกยังมีหาดที่น่าสนใจ เช่น หาดฝรั่ง (Charlie Beach) ซึ่งเป็นหาดที่สวยงามและมีที่พัก ร้านอาหารตั้งอยู่ริมหาด รวมถึง อ่าวหัวแหลม และ อ่าวพังกา ที่มีแนวหญ้าทะเลและแนวปะการังน้ำตื้นสำหรับการดำน้ำ

• เรือโดยสาร: จากท่าเรือควนตุงกู (อำเภอกันตัง) เป็นจุดเดินทางที่สะดวกที่สุด

• เรือโดยสาร (เรือเฟอร์รี่): ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

• เรือหางยาว: สามารถเช่าเหมาเรือหางยาวได้ ใช้เวลารวดเร็ว

• จากหาดปากเมง: สามารถซื้อแพ็กเกจทัวร์ 4 เกาะ (ซึ่งรวมถ้ำมรกตและเกาะมุก) โดยเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือใหญ่จากท่าเรือปากเมง

• ต้องว่ายน้ำเท่านั้น และต้องทำในช่วงที่น้ำลด (ประมาณ 10.00 – 14.00 น. ขึ้นอยู่กับตารางน้ำในแต่ละวัน) ควรไปกับผู้เชี่ยวชาญหรือทัวร์

• แนะนำช่วงเดือน พฤศจิกายน – พฤษภาคม ซึ่งทะเลสงบและอากาศดี

• เกาะมุกเหมาะสำหรับการพักค้างคืนเพื่อสัมผัสบรรยากาศยามเย็นที่หาดฝรั่ง และเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้านในชุมชน

ค่าเข้าชม:

เนื่องจากเกาะมุกอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จึงมีค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ที่ต้องชำระ

• คนไทย: ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท

• ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 200 บาท, เด็ก 100 บาท

เวลาเปิด–ปิด:

• สามารถเข้าชมและพักผ่อนบนเกาะได้ตลอดทั้งปี แต่การเข้าชมถ้ำมรกตขึ้นอยู่กับระดับน้ำขึ้น–น้ำลงในแต่ละวัน