“อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ได้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและเสียสละของท่านท้าวสุรนารี (ย่าโม) นางสาวบุญเหลือ และวีรชนชาวโคราชที่ได้ร่วมกันต่อสู้กับกองทัพเวียงจันทน์จนได้รับชัยชนะที่ทุ่งสัมฤทธิ์”
อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ (Thung Samrit Memorial) เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญทางประวัติศาสตร์การรบของชาวโคราช ซึ่งตั้งอยู่ในทุ่งโล่งกว้างใกล้กับบ้านสัมฤทธิ์ อำเภอพิมาย เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ทุ่งแห่งนี้ถูกจารึกไว้คือการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความเสียสละของชาวเมืองนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปโดยกองทัพของเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ ในช่วงปี พ.ศ. 2369 (สมัยรัชกาลที่ 3) หลังจากที่ยึดเมืองนครราชสีมาได้แล้ว เจ้าอนุวงศ์ได้มีคำสั่งให้กวาดต้อนผู้คนและทรัพย์สินจากเมืองโคราชไปยังเมืองเวียงจันทน์ โดยเคลื่อนขบวนมาหยุดพักที่ทุ่งสัมฤทธิ์แห่งนี้
ภายใต้การนำของ ท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) ซึ่งเป็นภริยาของเจ้าเมืองในขณะนั้น ท่านได้วางแผนอันชาญฉลาดในการรวบรวมกำลังใจและกำลังพลที่ถูกกวาดต้อน โดยใช้วิธีการยั่วยุให้ทหารลาวเกิดความประมาทและมัวเมาในสุรา เมื่อเห็นว่าฝ่ายทหารลาวอยู่ในสภาพไม่พร้อมรบและขาดความระมัดระวังแล้ว ท้าวสุรนารีจึงส่งสัญญาณให้บรรดาชาวเมืองโคราชที่ถูกจับมาเป็นเชลยลุกฮือขึ้นต่อสู้พร้อมกันในคืนวันแรม 2 ค่ำ เดือน 4 ปีจอ พ.ศ. 2369 การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดและกล้าหาญ โดยมี นางสาวบุญเหลือ วีรชนผู้กล้าอีกท่านหนึ่ง ได้แสดงความเสียสละสูงสุดด้วยการลอบเข้าไปจุดไฟเผาเกวียนบรรทุกดินระเบิดและอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายทหารลาว ทำให้เกิดความโกลาหลอย่างหนักและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการรบครั้งนี้ ผลลัพธ์คือชาวโคราชสามารถเอาชนะกองทัพเจ้าอนุวงศ์ และสามารถปลดปล่อยตนเองจากความเป็นเชลยได้สำเร็จ
ปัจจุบัน อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์จึงมิได้เป็นเพียงแค่สถานที่ระลึก แต่เป็น สัญลักษณ์ของความรักชาติ ความสามัคคี และความกล้าหาญ ภายในบริเวณมีการจัดสร้างศาลสถิตย์ดวงวิญญาณของท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือเพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาได้มากราบไหว้สักการะบูชาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะรูปปั้นของนางสาวบุญเหลือที่ยืนหยัดอย่างเด็ดเดี่ยวพร้อมคบเพลิง นับเป็นจุดที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้มาเยือนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมี อาคารจัดแสดงนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านตำบลสัมฤทธิ์ ซึ่งรวบรวมข้อมูลและวัตถุโบราณที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วีรกรรม รวมถึงข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านในอดีตมาจัดแสดงไว้ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี พื้นที่แห่งนี้จะถูกใช้เป็นสถานที่หลักในการจัด งานสดุดีวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญประจำจังหวัดเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันกล้าหาญนี้
วิธีการเดินทาง
- จากจังหวัดนครราชสีมา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ตรงไปประมาณ 43-45 กิโลเมตร ก่อนถึงอำเภอพิมาย จะมีจุดให้กลับรถเพื่อข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม อนุสรณ์สถานจะอยู่ทางซ้ายมือ
คำแนะนำ
-
ควรเข้าชมพร้อมกันกับพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านตำบลสัมฤทธิ์ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างครบถ้วน
-
สามารถบูชาดอกไม้ธูปเทียนเพื่อสักการะดวงวิญญาณท่านท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือได้
-
หากเดินทางเป็นหมู่คณะ ควรติดต่อประสานงานล่วงหน้ากับองค์การบริหารส่วนตำบลสัมฤทธิ์
ค่าเข้าชม:
- เข้าชมฟรี
เวลาเปิดปิดทำการ:
- เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30 - 17:00 น.
รีวิวทั้งหมด
(รีวิว 4 รายการ)รีวิวเมื่อ 7 ม.ค. 55
รีวิวเมื่อ 7 ม.ค. 55
รีวิวเมื่อ 7 ม.ค. 55
รีวิวเมื่อ 7 ม.ค. 55