“พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้า และเชื่อมโยงกับประเพณีแสวงบุญระหว่างลาวและไทย”
พระธาตุอิงฮัง (That Ing Hang Stupa) ถือเป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งที่ชาวพุทธให้ความเคารพอย่างสูง โดยมีความเชื่อว่าเป็นคู่แฝดกับพระธาตุพนมในประเทศไทย และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,600 ปี
ตามประวัติความเป็นมา พระธาตุอิงฮังสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบอง (หรือโคตรบูรณ์) ประมาณ พ.ศ. 400 โดยพระเจ้าสุมิตธรรมวงศา ตามคำแนะนำของสมณทูตจากสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งเดินทางเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก โดยสร้างเป็นธาตุกู่เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐาน
ในช่วงศตวรรษที่ 9 เมื่ออาณาจักรศรีโคตรบองเริ่มเสื่อมอำนาจลง ชนชาติขอมได้เข้ามามีอิทธิพล พระธาตุอิงฮังจึงถูกดัดแปลงเป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ มีการต่อเติมองค์พระธาตุจนมีลักษณะศิลปะแบบขอมโบราณ พร้อมกับเรียกชื่อว่า "อินทรปราสาท" ต่อมาในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่โดยการต่อเติมศิลปะแบบล้านช้างเข้าไป และเสริมยอดดวงปี ดัดแปลงให้เป็นพระธาตุทางพระพุทธศาสนาดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระธาตุจึงเป็นแบบสี่เหลี่ยมย่อมุมคล้ายหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมผสานกับวิหาร โดยมีประตูเข้าออกได้ องค์พระธาตุเจดีย์มี 3 ฐานลดหลั่นกันเป็นลำดับ ซึ่งฐานล่างและกลางเป็นศิลปะแบบดั้งเดิม ส่วนฐานบนและยอดเจดีย์เป็นศิลปะสมัยล้านช้าง แต่ละปีจะมีการจัดงานฉลองพระธาตุอิงฮังในช่วงเดือนธันวาคม
วิธีการเดินทาง
-
พระธาตุอิงฮังตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองสะหวันนะเขตไปทางทิศเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร
-
สามารถเดินทางด้วยรถตุ๊กตุ๊กหรือรถแท็กซี่จากในตัวเมือง หรือเช่ารถจักรยานยนต์เพื่อขับขี่เองได้
คำแนะนำ
-
การแต่งกาย: โปรดแต่งกายสุภาพเรียบร้อย
-
ข้อควรทราบ: ตามความเชื่อของชุมชนบ้านธาตุอิงฮังที่ว่าพระพุทธเจ้าเคยเสวยภัตตาหารที่ทำจากหมูแล้วเกิดอาหารเป็นพิษ ทำให้จนถึงปัจจุบันนี้ไม่มีใครเลี้ยงหมูในหมู่บ้านเลย
ค่าธรรมเนียมเข้าชม:
-
ข้อมูลค่าเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทาง
เวลาเปิดทำการ:
-
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 น. ถึง 17:00 น.
รีวิวทั้งหมด
(รีวิว 1 รายการ)รีวิวเมื่อ 10 มิ.ย. 57
วิธีนี้น่าจะสะดวกและคุ้มค่าเวลาที่สุด