“วัดเก่าแก่, สถาปัตยกรรมแบบล้านนา, บรรยากาศสงบเหมาะสำหรับการสักการะและท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม”
วัดร้องแง ภายในวิหารวัดมีศิลปะไทลื้อที่งามโดดเด่น ทั้งธรรมาสน์ทรงโบราณสัตภัณฑ์ และบันไดแก้ว รวมทั้งจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างพื้นบ้านที่น่าชม ชาวบ้านร้องแงช่วยกันอนุรักษ์โบราณวัตถุและรักษาวัฒนธรรมไทลื้อของตนไว้เป็นอย่างดี ในปี พ.ศ. 2551 จึงได้รับรางวัลดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมภาคเหนือ จากรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 7 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ชาวบ้านร้องแงเป็นชาวไทลื้อที่อพยพมาจากแคว้นสิบสองปันนา มีตำนานเล่าว่า เจ้าหลวงเทพพญาเลนเจ้าช้างเผือกงาเขียว เจ้าเมืองรินแห่งแคว้นสิบสองปันนา ได้อพยพผู้คนหนีภัยสงครามลงมาจนถึงลำน้ำล่องแง แล้วตั้งหมู่บ้านล่องแงขึ้น ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น ร้องแง เช่นปัจจุบัน
สิ่งที่น่าสนใจ
-
วิหาร: มีหลังคาคลุมต่ำ หน้าบันเป็นลายพันพฤกษา ในวิหารมีพระประธานปางมารวิชัย ผนังหลังองค์พระมีจิตรกรรมเรื่องพุทธประวัติและเนมีราชชาดก ฝีมือช่างพื้นถิ่น บนเสาวิหารมีลวดลายสีทองบนพื้นสีแดง หรือ ลายคำ ที่ไม่ซ้ำกันเลย เช่น ลายดอกไม้ ลายกรวยเชิง ลายพรรณพฤกษา นอกจากนี้ไม่ควรพลาดชมธรรมาสน์ทรงโบราณแบบดั้งเดิมของล้านนาที่หาชมได้ยาก
-
หอเทพพญาเลนเจ้าช้างเผือกงาเขียว: ตั้งอยู่กลางทุ่งนาห่างจากวิหารไปราว 500 เมตร เป็นอนุสาวรีย์รูปเจ้าเมืองถือหอกและดาบ นั่งบนหลังช้าง โดยมีควาญช้างนั่งอยู่ด้านหน้า
วิธีการเดินทาง
-
รถยนต์ส่วนตัว: ประมาณ 30 นาทีจากตัวเมืองน่าน ตามเส้นทาง น่าน–ปัว
-
รถโดยสารประจำทาง: สาย น่าน–ปัว ลงที่บ้านร้องแง แล้วเดินต่อเล็กน้อย
-
แท็กซี่/รถเช่า: สะดวกจากตัวเมืองน่าน
คำแนะนำ
-
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: พฤศจิกายน–กุมภาพันธ์ อากาศเย็นสบาย
-
เครื่องแต่งกาย: เสื้อผ้าเรียบร้อย รองเท้าเดินสบาย
-
ถ่ายภาพ: วิหารและเจดีย์เป็นจุดยอดนิยม
-
วัฒนธรรมท้องถิ่น: เคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สามารถร่วมทำบุญหรือถวายเครื่องสักการะ
-
วางแผนการเดินทาง: การเดินทางโดยสาธารณะมีจำกัด ควรวางแผนล่วงหน้า
ค่าธรรมเนียมเข้าชม:
-
ฟรีสำหรับทุกคน
-
(อัปเดต 2025 โดยชุมชนท้องถิ่น)
เวลาทำการ:
-
ทุกวัน 06:00 – 18:00
-
ช่วงเช้าเหมาะสำหรับการสักการะและถวายเครื่องสักการะ