“ภูหลวงเป็นดินแดนแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ โดดเด่นด้วยกุหลาบแดง (กุหลาบพันปี) ที่บานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาว พืชพรรณไม้หายาก เช่น กล้วยไม้ดิน รองเท้านารี และไม้จำพวกสนเขา นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์อายุกว่า 120 ล้านปีบนลานหินทราย ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักเดินป่าและผู้สนใจธรรมชาติวิทยา”
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 มีพื้นที่กว่า 560 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมผืนป่าขนาดใหญ่ที่เป็นทั้งแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าต้นน้ำสำคัญของจังหวัดเลย คำว่า “ภูหลวง” หมายถึงภูเขาสูงใหญ่หรือภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน ยอดสูงสุดอยู่ที่ 1,571 เมตร ทำให้มีภูมิอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาหินทรายสลับซับซ้อน มีทั้งป่าดิบเขา ป่าสนสองใบ ป่าสนสามใบ และทุ่งหญ้าสะวันนา จึงกลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน
ภูหลวงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของดอกไม้เมืองหนาวและไม้ป่าหายากมากมาย โดยเฉพาะกุหลาบแดงหรือกุหลาบพันปี (Rhododendron) ที่บานสะพรั่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์–มีนาคม บริเวณลานหินกว้าง เช่น ผาสมเด็จและผาเตลิ่น นอกจากนี้ยังพบกล้วยไม้ป่าหลายชนิด เช่น รองเท้านารี ที่ขึ้นอยู่ตามแนวป่าสน ในช่วงฤดูฝนจะพบดอกไม้ป่าหลากสีสัน ทั้งดอกกระดุมเงินและดอกสร้อยสุวรรณา ขึ้นแซมตามทุ่งหญ้าอย่างสวยงาม
ภูหลวงยังมีความสำคัญทางธรณีวิทยา เพราะเป็นพื้นที่ค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์บนชั้นหินทราย อายุราว 120 ล้านปี หลักฐานเหล่านี้เป็นที่สนใจของนักวิจัยและนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเพิ่มคุณค่าให้กับการท่องเที่ยวเชิงวิทยาศาสตร์
ด้านสัตว์ป่า ภูหลวงเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทั้งกระทิง เลียงผา ช้างป่า เก้ง กวาง และนกพันธุ์หายาก เช่น นกยูง นกกะรางหัวหงอก รวมถึงนกกินผลไม้หลายชนิด ทำให้ที่นี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักดูนกและผู้สนใจศึกษาธรรมชาติ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า ภูหลวงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง ได้แก่
-
เส้นทางลานสุริยัน ใช้เวลาเดิน 1–2 ชั่วโมง เป็นทางราบเกือบทั้งหมด ผ่านป่าโปร่งและทุ่งหญ้า เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกระดับ
-
เส้นทางผาสมเด็จและผาเตลิ่น ใช้เวลาเดินประมาณ 3–5 ชั่วโมง มีความยาวและท้าทายมากขึ้น จุดเด่นคือทิวทัศน์กว้างใหญ่ของลานหินและดอกไม้ที่บานเต็มพื้นที่ตามฤดูกาล
-
เส้นทางขึ้นยอดภูหลวง ใช้เวลาเกือบทั้งวัน เหมาะสำหรับผู้มีความพร้อมด้านร่างกายและอุปกรณ์ จุดหมายคือยอดสูงสุดของภูหลวงที่โอบล้อมด้วยป่าสนและทุ่งหญ้าสะวันนา
การเดินป่าที่ภูหลวงไม่เพียงแต่มอบความท้าทายและความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังให้สัมผัสถึงความสงบเงียบและความยิ่งใหญ่ของผืนป่า การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวและมีเจ้าหน้าที่นำทางทำให้ภูหลวงคงความเป็นธรรมชาติแท้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
วิธีการเดินทาง
-
รถยนต์ส่วนตัว: ติดต่อเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์ฯ ล่วงหน้า สามารถเดินทางจากอำเภอเมืองเลยหรืออำเภอภูเรือ ไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง การขึ้นเขาจะใช้รถของเขตฯ เพื่อความปลอดภัย
-
รถโดยสารสาธารณะ: ใช้รถโดยสารไปยังอำเภอภูเรือ จากนั้นต่อรถท้องถิ่นและประสานงานกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์ฯ
คำแนะนำ
-
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่ดีที่สุด: เดือนตุลาคม – พฤษภาคม (ปิดช่วงฤดูฝน)
-
เตรียมร่างกายและอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการเดินป่า
-
มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ให้บริการ ควรจองล่วงหน้า
ค่าเข้าชม
-
ชาวไทย: ผู้ใหญ่ 20 บาท / เด็ก 10 บาท
-
ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 200 บาท / เด็ก 100 บาท
-
อาจมีค่าธรรมเนียมยานพาหนะเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด
-
เปิดให้เข้าชม: เดือนตุลาคม – พฤษภาคม
-
ปิดช่วงฤดูฝน: มิถุนายน – กันยายน
-
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว: 08.30 – 16.30 น.
-
ควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันเวลาเปิด-ปิดก่อนเดินทาง