“เป็นผืนป่าดิบเขาที่อุดมสมบูรณ์ตามแนวชายแดนไทย–ลาว มีจุดชมทะเลหมอกบนยอด เนิน 1408 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของอุทยานฯ และเป็นแหล่งรวมน้ำตกสวยงามตลอดปี เช่น น้ำตกตาดเหือง น้ำตกคิ้ง น้ำตกวังตาด และน้ำตกช้างตก นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของ สมรภูมิบ้านร่มเกล้า ซึ่งมีร่องรอยของบังเกอร์และสิ่งก่อสร้างจากยุคสงครามให้ศึกษา”
อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายมีพื้นที่ประมาณ 73,225 ไร่ (117 ตารางกิโลเมตร) ครอบคลุมแนวเทือกเขาสูงทางตอนเหนือของจังหวัดเลย ซึ่งต่อเนื่องกับชายแดนประเทศลาวโดยมี แม่น้ำเหือง เป็นเส้นแบ่งพรมแดนธรรมชาติ
ภูมิประเทศของอุทยานฯ เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีระดับความสูงตั้งแต่ 600–1,408 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยยอดที่สูงที่สุดคือ ภูสวนทราย หรือ เนิน 1408 ซึ่งเป็นจุดชมวิวสำคัญและลานกางเต็นท์ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
สภาพป่าโดยส่วนใหญ่เป็น ป่าดิบเขา ป่าดิบชื้น และป่าผสมผลัดใบ มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดปี เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำแพร่ ลำน้ำเหือง และลำน้ำเหล็ก
ในฤดูฝน ป่าจะเขียวชอุ่มและเต็มไปด้วยเสียงนกร้อง ส่วนในฤดูหนาว อากาศเย็นจัดและมีโอกาสเห็นทะเลหมอกปกคลุมยอดเขาอย่างสวยงาม
ทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ อุทยานฯ เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น วัวป่า (Gaur), หมูป่า, และนกมากกว่า 240 ชนิด รวมถึงนกที่พบเฉพาะถิ่น เช่น นกหัวขวานด่างอกเงิน, Blue-naped Pitta, และ Short-tailed Parrotbill ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นแหล่งดูนกที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคอีสาน
ในส่วนของสัตว์เลื้อยคลาน พบชนิดหายาก เช่น งูพิษเขาภูเขา (Himalayan mountain pit viper), งูแถบ (Banded krait) และเต่าป่าหัวโต
นอกจากนี้ยังมีรายงานการค้นพบ ไลเคนสายพันธุ์ใหม่ของโลก “Pertusaria loeiensis” ในพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งเป็นชนิดเฉพาะถิ่นของจังหวัดเลย
อุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นหลายแห่ง ได้แก่
-
เนิน 1408: จุดสูงสุดของอุทยานฯ สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และทะเลหมอกแบบพาโนรามา
-
เนิน 1255: จุดชมวิวเชิงประวัติศาสตร์ มีพระพุทธรักษาและบังเกอร์ทหารจากยุคสงคราม
-
น้ำตกตาดเหือง: น้ำตกขนาดใหญ่กั้นพรมแดนไทย–ลาว
-
น้ำตกคิ้ง: น้ำตกริมทางที่เดินทางสะดวก เหมาะแก่การพักผ่อนและเล่นน้ำ
-
น้ำตกวังตาด และน้ำตกช้างตก: น้ำตกขนาดกลางในลำน้ำแพร่ ซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติสูง
-
จุดชมวิวภูหัวฮ่อม: ลานกางเต็นท์ยอดนิยมสำหรับชมทะเลหมอกในฤดูหนาว
กิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ ดูนก ตั้งแคมป์ ชมทะเลหมอก และถ่ายภาพภูมิทัศน์
โดยอุทยานฯ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ เหมาะทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปและนักสำรวจที่ต้องการค้างแรมในป่า
อากาศในอุทยานฯ เย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20–25 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาวอาจลดต่ำถึง 5–10 องศาเซลเซียส
ฤดูท่องเที่ยวที่เหมาะสมที่สุดคือ กรกฎาคม–กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ธรรมชาติงดงามและอากาศไม่ร้อนจัด
วิธีการเดินทาง
รถส่วนตัว: เดินทางมุ่งหน้าสู่ อำเภอด่านซ้าย หรือ อำเภอนาแห้ว
ใช้ทางหลวงหมายเลข 2113 (ด่านซ้าย–นาแห้ว) จากนั้นต่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1268 (สายเหมืองแพร่–ร่มเกล้า)
ระหว่างทางจะผ่านน้ำตกคิ้งและจุดชมวิวต่าง ๆ ก่อนถึง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาแห้วประมาณ 8 กิโลเมตร
รถสาธารณะ: สามารถนั่งรถโดยสารมาที่ อำเภอด่านซ้าย หรือ อำเภอนาแห้ว จากนั้นว่าจ้างรถท้องถิ่นหรือรถเหมาเพื่อเดินทางต่อไปยังที่ทำการอุทยานฯ ได้สะดวก
คำแนะนำ
-
เตรียมร่างกายและอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการเดินป่าขึ้นภู
-
ควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้า เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศและเส้นทาง
-
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงฝนตกหนัก เนื่องจากเส้นทางบางส่วนลื่นและลาดชัน
-
รักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะในพื้นที่ธรรมชาติ
-
ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานฯ เพื่อความปลอดภัยและการอนุรักษ์ธรรมชาติ
ค่าเข้าชม
-
ชาวไทย: ผู้ใหญ่ 20 บาท, เด็ก 10 บาท
-
ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 50 บาท
(ค่าเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศของกรมอุทยานฯ)
เวลาเปิด–ปิด
-
เปิดให้เข้าชมทุกวัน
-
เวลา 08.00 – 16.30 น. (ตามเวลาทำการของอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย)