“แหลมพรหมเทพขึ้นชื่อในเรื่องวิวพระอาทิตย์ตกทะเลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย”
แหลมพรหมเทพเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะภูเก็ตที่โอบล้อมด้วยทะเลอันดามันสีฟ้าครามและท้องฟ้ากว้างใหญ่ ที่นี่คือสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ เพราะทุกช่วงเวลาของวันจะมีบรรยากาศที่แตกต่างและงดงาม โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่สะท้อนแสงสีทองลงบนผืนน้ำ ทำให้เกิดภาพที่งดงามจับใจ สายลมทะเลที่พัดผ่านเบา ๆ และเสียงคลื่นกระทบโขดหิน สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและสัมผัสกับความงามตามธรรมชาติอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ทัศนียภาพโดยรอบยังเต็มไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยและภูเขาหินปูนที่ตัดกับท้องฟ้าอย่างลงตัว ทำให้แหลมพรหมเทพไม่ใช่เพียงแค่จุดชมวิว แต่เป็นประสบการณ์การเดินทางที่เปิดโลกทัศน์ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติและความสงบของสถานที่นี้ ทำให้แหลมพรหมเทพกลายเป็นสัญลักษณ์ของภูเก็ตที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต
วิธีการเดินทาง
-
ขับรถยนต์จากตัวเมืองภูเก็ต ใช้ทางหลวงหมายเลข 402 ไปทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร
-
สามารถใช้บริการรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากตัวเมืองได้
-
บางทัวร์ท่องเที่ยวภูเก็ตจะมีแวะที่แหลมพรหมเทพในโปรแกรม
-
มีที่จอดรถสะดวกสบายใกล้กับจุดชมวิว
คำแนะนำ
-
ควรมาถึงช่วงเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
-
เตรียมน้ำดื่มและอุปกรณ์กันแดด
-
แต่งกายสุภาพและระวังลมแรงบริเวณแหลม
-
ถ่ายภาพและเก็บความทรงจำในช่วงเวลาสวยที่สุด
รีวิวทั้งหมด
(รีวิว 16 รายการ)รีวิวเมื่อ 28 ก.ค. 55
รีวิวเมื่อ 23 ก.ค. 55
รีวิวเมื่อ 15 ก.ค. 55
รีวิวเมื่อ 15 ก.ค. 55
รีวิวเมื่อ 25 ก.พ. 54
รีวิวเมื่อ 14 พ.ย. 53
รีวิวเมื่อ 14 พ.ย. 53
รีวิวเมื่อ 14 พ.ย. 53
รีวิวเมื่อ 16 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 16 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 16 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 15 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 15 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 10 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 10 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 10 ก.ค. 53
ประภาคารกาญจนาภิเษก เป็นประภาคารที่ชาวภูเก็ตและกองทัพเรือร่วมกันสร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในปีกาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539 มีความสูง 50 เมตร หมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 50 ปี เส้นผ่าศูนย์กลางฐานกว้าง 9 เมตร หมายถึงรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี แสงไฟของประภาคารมองเห็นได้ไกล 39 กิโลเมตร ซึ่งก็หมายถึงปีกาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539 โดยเหนือทางเข้าด้านหน้ามีตราสัญลักษณ์ปีกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ส่วนด้านข้างตราสัญลักษณ์ประดับธงชาติ
สำหรับยอดของประภาคารแห่งนี้ มีการออกแบบ โดยการนำลักษณะสำคัญของตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มาประดิษฐานไว้ ประกอบด้วย
พานเครื่องสูง 2 ชั้น เป็นที่ตั้งดวงประทีป หรือตะเกียงประภาคารที่ส่องสว่างรอบทิศเปรียบประดุจพระบารมีขององค์พระมหากษัตริย์อันแผ่ไพศาลทั่วแผ่นดิน ตะเกียงประภาคารอยู่ภายใต้เศวตฉัตร 9 ชั้น