“ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่าเป็นแหล่งเรียนรู้และชมแปลงเกษตรพืชผักเมืองหนาวที่สำคัญของจังหวัด โดยมีผลผลิตขึ้นชื่ออย่างพริกหวานและฟักทองยักษ์ รวมถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวเขาเผ่าม้งและเย้า”
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า (Pangka Royal Project Development Center) ตั้งอยู่บนภูเขาสูงในเขตอำเภอปง จังหวัดพะเยา ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2530 ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกป่าและการปลูกฝิ่นของชาวเขาเผ่าม้งและเย้า (เมี่ยน) โดยส่งเสริมให้ปลูกพืชเมืองหนาวทดแทน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวเขาในพื้นที่
แปลงสาธิตการเกษตร
ภายในศูนย์มีแปลงสาธิตการปลูกพืชผักเมืองหนาวหลายชนิด รวมถึงไม้ผลและไม้ดอกเมืองหนาว เช่น อะโวคาโด, ท้อ, พลับ, มะเขือก้านดำ, หอมญี่ปุ่น, เมล่อนญี่ปุ่น, พริกหวาน และ ฟักทองยักษ์ ซึ่งปลูกกระจายไปตามไหล่เขา ทั้งพืชล้มลุกและพืชยืนต้น นอกจากนี้ยังมี แปลงดอกไม้หลากสีสัน ที่ช่วยสร้างทิวทัศน์สวยงามและดึงดูดนักท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ศูนย์ฯ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแปลงสาธิต พร้อมเรียนรู้วิธีการทำเกษตรปลอดสารพิษ และการเกษตรที่ยั่งยืน
นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในการเก็บเกี่ยวพืชผักเมืองหนาวและการเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วิถีชีวิตของชาวเขา
ศูนย์ฯ ตั้งอยู่ใกล้กับชุมชนของชาวม้งและเย้า นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเขา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ จะมีการจัดกิจกรรมและประเพณีท้องถิ่นให้ชม
ประสบการณ์ตามฤดูกาล
-
ฤดูฝน (มิถุนายน–กันยายน): สถานที่มีทิวทัศน์เขียวขจีและน้ำตกต่างๆ เหมาะสำหรับการเดินชม
-
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน–มกราคม): เหมาะสำหรับการชมแปลงไม้ดอกและผลผลิตจากเกษตรกร
ที่พักและร้านอาหาร
ศูนย์ฯ มีที่พักบ้านพักรับรอง, ลานกางเต็นท์ และร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากแปลงเกษตรของโครงการ
วิธีการเดินทาง
โดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่า:
- จากตัวเมืองพะเยา ใช้ถนนหมายเลข 1021 มุ่งหน้าอำเภอปง ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1179 และ 1148 (เส้นทางเชียงคำ-น่าน) ไปยังบ้านสิบสองพัฒนา (บ้านปังค่า) ขับตามป้ายและวนอุทยานภูลังกา ป้ายศูนย์ฯ ชัดเจน รถทุกประเภทเข้าถึงได้ แต่บางช่วงลาดชัน ควรขับระมัดระวัง
โดยรถโดยสารสาธารณะ:
- นั่งรถตู้จากตัวเมืองพะเยาไปอำเภอปง ต่อรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปศูนย์ฯ
โดยจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์:
- เหมาะสำหรับนักผจญภัย บางช่วงลาดชัน ควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- แนะนำใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือเช่า ตรวจสอบสภาพอากาศและเส้นทางก่อนเดินทาง โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน
คำแนะนำ
-
เยี่ยมชมฤดูหนาว (พฤศจิกายน–มกราคม) เพื่อชมไม้ดอกและแปลงเกษตร
-
พกน้ำดื่มและเสื้อผ้าอุ่น
-
ชมแปลงเกษตรและเรียนรู้วิถีชีวิตชนเผ่า
-
ลองลิ้มชิมเมนูสุขภาพจากผักปลอดสารพิษ
-
โทรสอบถามเวลาทำการและการเข้าพักล่วงหน้า
ค่าธรรมเนียมเข้าชม:
- ไม่มีค่าเข้าชมแปลงสาธิต (อาจมีค่าบริการสำหรับที่พักหรือลานกางเต็นท์)
เวลาเปิด–ปิด:
- 08:00 – 16:30 (ควรโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทาง)