“ปราสาทนางรำเป็นปราสาทขอมโบราณที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 สร้างขึ้นในศิลปะแบบบาปวน เป็นศาสนสถานสำคัญที่แสดงถึงอิทธิพลของอารยธรรมขอมในพื้นที่อีสานตอนล่างของประเทศไทย”
ปราสาทนางรำ (Prasat Nang Ram) เป็นโบราณสถานในศาสนาฮินดูที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา จัดเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นตามแบบแผนของ อารยธรรมขอมโบราณ โดยมีอายุการก่อสร้างประมาณพุทธศตวรรษที่ 16-17 ซึ่งตรงกับช่วงที่ศิลปะแบบ บาปวน (Baphuon) มีอิทธิพลสูงสุด โดยเฉพาะในช่วงของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 หรือพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2
ปราสาทแห่งนี้เป็น ปรางค์เดี่ยว ที่มีแผนผังเรียบง่ายแต่สมบูรณ์ตามคติจักรวาลวิทยาของฮินดู ตัวปรางค์ประธานตั้งอยู่บนฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกอันเป็นทิศมงคล องค์ปรางค์ก่อสร้างด้วย อิฐ เป็นวัสดุหลัก และใช้ ปูนสอ (ปูนผสมยางไม้หรือน้ำอ้อย) เป็นตัวประสานอิฐ ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในการก่อสร้างศาสนสถานขนาดเล็กถึงกลางในยุคนั้น
ส่วนประกอบของปราสาทประกอบด้วย:
-
ปรางค์ประธาน: เป็นอาคารหลัก มีลักษณะเป็นปรางค์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขยื่นออกไปทางด้านหน้า (ทิศตะวันออก) เชื่อมต่อกับ มณฑป ด้วยห้องแคบที่เรียกว่า อันตราละ (Ante-chamber) แต่ส่วนของมณฑปนั้นผุพังไปมากแล้ว ผนังของปรางค์มีร่องรอยการประดับตกแต่งด้วย ลวดลายปูนปั้น ฉาบทับบนอิฐ ซึ่งปัจจุบันลวดลายดังกล่าวได้ลบเลือนไปเกือบหมดสิ้น แต่ก็เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความวิจิตรบรรจงในอดีต
-
กำแพงแก้วและซุ้มโคปุระ: ล้อมรอบองค์ปรางค์ประธานในผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมี ซุ้มประตูทางเข้า (โคปุระ) อยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศเดียวกับปรางค์ประธาน โคปุระนี้ก็ก่อสร้างด้วยอิฐเช่นกัน
-
คูน้ำ: โดยรอบปราสาทมีร่องรอยของ คูน้ำ ที่โอบล้อมพื้นที่ไว้เกือบเป็นรูปตัวยู ซึ่งคูน้ำถือเป็นสัญลักษณ์ของ มหาสมุทร ตามความเชื่อของขอมโบราณ ที่ล้อมรอบภูเขาพระสุเมรุ (องค์ปรางค์) อันเป็นศูนย์กลางจักรวาล
จากการขุดค้นทางโบราณคดี ได้ค้นพบ ทับหลังหินทราย และ ชิ้นส่วนประติมากรรม ที่สันนิษฐานว่าเป็นส่วนประกอบของปราสาท สิ่งที่สำคัญที่พบคือ ฐานรูปเคารพ และชิ้นส่วนประติมากรรมหินทรายที่บ่งชี้ว่าปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็น เทวาลัย ถวายแด่เทพเจ้าในศาสนาฮินดู อาจจะเป็นพระศิวะหรือพระวิษณุ และต่อมาอาจมีการดัดแปลงเพื่อใช้งานในพระพุทธศาสนาด้วย
แม้ว่าปราสาทนางรำจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตเท่าปราสาทสำคัญอื่นๆ ในอีสานใต้ แต่ก็เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันถึง เครือข่ายเส้นทางอารยธรรมขอม ที่แผ่ขยายเข้ามาในพื้นที่อำเภอประทายและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์และมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในอดีต ปัจจุบันกรมศิลปากรได้เข้ามาดูแลและบูรณะรักษาโครงสร้างอิฐที่เหลืออยู่ เพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษาถึงสถาปัตยกรรมและศาสนาในยุคโบราณอย่างใกล้ชิด
วิธีการเดินทาง
-
รถยนต์ส่วนตัว: ใช้ทางหลวงหมายเลข 207 (ประทาย-บัวใหญ่) มุ่งหน้าไปทางอำเภอประทาย ปราสาทจะตั้งอยู่ด้านหลังโรงเรียนบ้านนางรำ
-
รถสาธารณะ: ขึ้นรถประจำทางสายที่ผ่านอำเภอประทาย จากนั้นต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างหรือรถสองแถวไปยังบ้านนางรำ
คำแนะนำ
-
ควรเข้าชมในช่วงเช้าตรู่หรือเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนจัดในตอนกลางวัน
-
ควรแต่งกายสุภาพ เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณวัด
-
ควรเตรียมน้ำดื่มและหมวกให้พร้อม เนื่องจากบริเวณปราสาทค่อนข้างโล่ง
-
สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือชมวัตถุโบราณที่ขุดพบได้ที่วัดปราสาทนางรำ
ค่าเข้าชม:
- ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิดปิดทำการ:
- เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30 น. – 16:30 น.