“วัดเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น ทั้ง เจดีย์ทรงมอญสีทอง ติดกับวิหารแบบไทย ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธมนต์ พระพุทธรูปสำริดสมัยสุโขทัย และภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณที่สะท้อนวิถีชีวิตและเครื่องแต่งกายชาวตากกว่า 100 ปี”
วัดโบสถ์มณีศรีบุญเรือง (Wat Bot Mani Si Bun Rueang) เป็นวัดสำคัญของเมืองตาก มีอายุเก่าแก่กว่า 147 ปี สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย เดิมในบริเวณนี้มีสองวัดติดกัน คือ วัดโบสถ์มณีราษฎร์ และ วัดศรีบุญเรือง ซึ่งมีรั้วกำแพงกั้นเขตวัดด้านหลังโบสถ์วัดโบสถ์มณีราษฎร์
วัดถูกสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2400 โดย พระยาวิชิตรักา (แก้วเจ้าเมืองตาก) ต่อมาในปี พ.ศ. 2456 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจการคณะสงฆ์ในจังหวัดตากและทรงปรารภว่า หากรวมวัดศรีบุญเรืองกับวัดโบสถ์มณีราษฎร์เป็นวัดเดียวกัน ให้ชื่อว่า วัดโบสถ์มณีศรีบุญเรือง จะเป็นการดียิ่ง หลังจากนั้นทั้งสองวัดจึงถูกรวมเป็นวัดเดียว และเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2497
สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น:
-
เจดีย์ทรงมอญ: เจดีย์สีทองรูปทรงมอญสร้างติดกับวิหารแบบไทยอย่างกลมกลืน สะท้อนความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระหว่างชาวไทยและมอญ
-
พระวิหารและโบสถ์สีขาว: สร้างแบบเรียบง่าย ภายในวิหารมี ภาพจิตรกรรมฝาผนังสีฝุ่นโบราณ เล่าเรื่องพุทธประวัติและทศชาติชาดก
-
หลวงพ่อพุทธมนต์: พระประธานปางมารวิชัย เนื้อสำริด ศิลปะสุโขทัย สร้างราวต้นพุทธศตวรรษที่ 19
-
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง: แฝงเรื่องราววิถีชีวิตชาวตากกว่า 100 ปี เช่น ภาพสตรีใส่ ซิ่นต๋า แบบชาวไทลื้อ และเครื่องแต่งกายท้องถิ่นอื่น ๆ
-
บรรยากาศภายในวัด: ร่มรื่นด้วยต้นพิกุลขนาดใหญ่ ให้ความสงบและร่มรื่นแก่ผู้มาเยือน
วัดนี้จึงไม่เพียงเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนา แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นของเมืองตาก
วิธีการเดินทาง
- วัดตั้งอยู่บน ถนนตากสิน ตัวเมืองตาก ใกล้แม่น้ำปิง สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว รถสองแถว รถตุ๊กตุ๊ก หรือจักรยาน/มอเตอร์ไซค์ จากตัวเมืองตากตรงไปประมาณ 2–3 กม. วัดอยู่ทางซ้ายมือ สังเกต เจดีย์สีทองและวิหารแบบไทย เป็นจุดสังเกต
คำแนะนำ
-
ควรแต่งกายสุภาพเมื่อเข้าชมวัด
-
ใช้เวลาชมภาพจิตรกรรมฝาผนังเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น
-
ห้ามถ่ายภาพด้วยแฟลชเพื่อป้องกันความเสียหายของภาพวาดโบราณ
ค่าเข้าชม:
- ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิด–ปิด:
- เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 18:00 น.