ปราสาทซุนปุ (Sunpu Castle) ยังคงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มากที่สุดของญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่พำนักของ โทกูงาวะ อิเอยาสุ ผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ อิเอยาสุใช้ชีวิตในวัยเยาว์ที่นี่ในฐานะตัวประกันทางการเมืองภายใต้ตระกูลอิมากาวะ และหลังจากเกษียณในตำแหน่งโชกุน เขากลับมาที่ซุนปุเพื่อดูแลการปกครองประเทศจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1616 ในยุคนี้ ซุนปุเติบโตเป็นศูนย์กลางทางการเมืองที่เจริญรุ่งเรืองเทียบเท่ากับเอโดะ

จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของปราสาทคือ ทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ซุนปุตั้งอยู่โดยตรงตามถนนโทไคโด ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญที่สุดในบรรดาเส้นทางทั้งห้าของยุคเอโดะที่เชื่อมต่อเอโดะและเกียวโต จากที่นี่ อิเอยาสุสามารถตรวจสอบการเคลื่อนไหวของผู้คน สินค้า ทูตทางการเมือง และไดเมียวในภูมิภาค ทำให้เขาสามารถรักษาเสถียรภาพทั่วประเทศได้ ภูมิประเทศของซุนปุยังมอบข้อได้เปรียบเชิงสัญลักษณ์: ในวันที่อากาศแจ่มใส บริเวณปราสาทสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างเกียรติภูมิทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของภูมิภาค การผสมผสานระหว่างความปลอดภัย สัญลักษณ์ และการเข้าถึงนี้ทำให้ซุนปุเป็นฐานที่เหมาะสมสำหรับโชกุนที่เกษียณแล้ว

ปราสาทซุนปุสร้างขึ้นครั้งแรกในปลายทศวรรษ 1580 และขยายใหญ่ขึ้นอย่างมากในปี 1607 เป็นปราสาทฮิราจิโระ (ปราสาทที่ราบ) ขนาดใหญ่ที่มีกำแพงหินที่แข็งแกร่งและคูเมืองสามชั้น ทำให้เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น แม้ว่าไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1607 และ 1635 จะทำลายหอคอยดอนจอนเจ็ดชั้น (ซึ่งไม่เคยสร้างใหม่หลังจากนั้น) แต่ซุนปุยังคงเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางการบริหารตลอดสมัยเอโดะ

ปัจจุบัน พื้นที่นี้ได้รับการอนุรักษ์เป็น สวนสาธารณะปราสาทซุนปุ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวในเมืองที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างสวยงามและกว้างขวาง ซึ่งเน้นถึงแง่มุมที่สำคัญของปราสาทเดิม ผู้เข้าชมสามารถสำรวจ:

• ฮิกาชิ โกมง (ประตูตะวันออก) – ประตูที่สร้างขึ้นใหม่อย่างพิถีพิถันโดยใช้เทคนิคงานไม้แบบดั้งเดิม

• ทัตสึมิ ยากูระ (หอคอยตะวันออกเฉียงใต้) – การสร้างใหม่ที่แท้จริงอีกแห่งหนึ่งที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการออกแบบป้อมปราการในยุคเอโดะ

• คูเมืองและกำแพงหิน – องค์ประกอบดั้งเดิมจำนวนมากยังคงสภาพเดิม แสดงให้เห็นถึงขนาดและความฉลาดในการป้องกันของปราสาท

• สวนโมมิจิยามะ – สวนญี่ปุ่นที่สวยงามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิทัศน์ของภูมิภาคซุรุกะ รวมถึงจุดชมวิวที่เป็นตัวแทนของภูเขาไฟฟูจิ

ด้วยการผสมผสานระหว่างความงามตามธรรมชาติ ความก้องกังวานทางประวัติศาสตร์ และงานฝีมือในยุคเอโดะ สวนสาธารณะปราสาทซุนปุจึงเป็นจุดแวะพักที่คุ้มค่าสำหรับช่างภาพ นักสำรวจวัฒนธรรม และใครก็ตามที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่เงียบสงบแต่ให้ความรู้ในชิซูโอกะ

• โดยรถไฟ: จาก สถานี JR ชิซูโอกะ เดินประมาณ 10–15 นาทีไปยังสวนสาธารณะ

• โดยรถประจำทาง: รถประจำทางท้องถิ่นจากสถานีจอดที่ “สวนอาโอบะ”, “เคนโช-มาเอะ” และจุดรอบข้างใกล้ปราสาท

• โดยรถยนต์: มีที่จอดรถสาธารณะรอบๆ สวนอาโอบะ แม้ว่าการเดินจากสถานีชิซูโอกะจะสะดวกที่สุด

• ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและใบเมเปิลในฤดูใบไม้ร่วง

• การถ่ายภาพ: ช่วงเช้าตรู่มีผู้เยี่ยมชมน้อยกว่าและมีโอกาสที่ชัดเจนกว่าในการถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิจากบริเวณสวนสาธารณะ

• พื้นที่พิพิธภัณฑ์: ประตูและหอคอยที่ได้รับการบูรณะมีนิทรรศการให้ข้อมูล

• ข้อควรทราบเกี่ยวกับโดรน: ไม่อนุญาต ให้บินโดรนภายในสวนสาธารณะเนื่องจากข้อบังคับของเมือง

• เคล็ดลับสภาพอากาศ: การมองเห็นภูเขาไฟฟูจิขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพเมฆ ตอนเช้าในฤดูหนาวจะมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด

ค่าเข้าชม:

• สวนสาธารณะปราสาทซุนปุ: ฟรี

• ฮิกาชิ โกมง และ ทัตสึมิ ยากูระ: ประมาณ ¥200–¥300

• สวนโมมิจิยามะ: ประมาณ ¥150–¥300
  (ตั๋วฤดูกาลรวมกันอาจมีราคาประมาณ ¥300–¥600)

เวลาทำการ:

• สวนสาธารณะปราสาทซุนปุ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

• โครงสร้างและสวน: โดยทั่วไป 9:00–16:30
  (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)