“สัมผัสหน้าผาริมทะเลที่งดงามที่สุดของไอร์แลนด์ — สถานที่ซึ่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ประวัติศาสตร์โบราณ และชีวิตสัตว์ป่ามาบรรจบกันอย่างลงตัว”
หน้าผามอเฮอร์ (Cliffs of Moher) ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของประเทศไอร์แลนด์ ในเขตเคาน์ตี้แคลร์ ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงและมีผู้มาเยือนมากที่สุดในประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางท่องเที่ยว Wild Atlantic Way ที่แสดงถึงความงามอันดิบของชายฝั่งทะเลตะวันตก หน้าผาแห่งนี้ยังเป็นแนวขอบตะวันตกเฉียงใต้ของพื้นที่ The Burren ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องภูมิประเทศหินปูนคาร์สต์อันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไอร์แลนด์
ขนาดและธรณีวิทยา (Dimensions and Geology)
หน้าผามอเฮอร์ทอดยาวประมาณ 14 กิโลเมตร จากบริเวณ แฮกส์เฮด (Hag’s Head) ทางตอนใต้ไปจนถึง โอไบรอันส์ทาวเวอร์ (O’Brien’s Tower) ทางตอนเหนือ โดยมีความสูงตั้งแต่ 120 เมตร ที่แฮกส์เฮดจนถึง 214 เมตร บริเวณใกล้โอไบรอันส์ทาวเวอร์
หน้าผาแห่งนี้เกิดจากการสะสมชั้นหิน เชลและหินทรายนามูเรียน (Namurian shale and sandstone) เมื่อกว่า 313–326 ล้านปีก่อน จากตะกอนที่ถูกพัดพามาจากแม่น้ำในยุคดึกดำบรรพ์ ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นบันทึกทางธรณีวิทยาที่สำคัญของโลก
จุดเด่นและประวัติความเป็นมา (Key Features and History)
-
โอไบรอันส์ทาวเวอร์ (O’Brien’s Tower) – หอคอยหินทรงกลมที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1835 โดย เซอร์คอร์นีเลียส โอไบรอัน (Sir Cornelius O’Brien) เจ้าของที่ดินท้องถิ่นผู้เล็งเห็นศักยภาพในการท่องเที่ยวของหน้าผา จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุด มองเห็นทิวทัศน์ของอ่าวกัลเวย์ หมู่เกาะอารัน และเทือกเขาคอนนีมาราได้อย่างชัดเจน
-
แฮกส์เฮด (Hag’s Head) – จุดใต้สุดของหน้าผา มีชื่อมาจากป้อมโบราณชื่อ Mothar ที่เคยตั้งอยู่บริเวณนี้ พร้อมหอคอยสังเกตการณ์ในศตวรรษที่ 19 ซึ่งเคยใช้ตรวจตราทางทะเล
-
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Visitor Centre) – อาคารใต้ดินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ออกแบบให้กลมกลืนกับภูมิทัศน์โดยรอบ ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับธรณีวิทยา ระบบนิเวศ และประวัติศาสตร์ของหน้าผา รวมถึงมีทางเดินที่ปลอดภัยและจุดชมวิวหลักสำหรับนักท่องเที่ยว
สัตว์ป่าและระบบนิเวศ (Wildlife and Ecology)
หน้าผามอเฮอร์ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ คุ้มครองพิเศษสำหรับนกทะเล (Special Protection Area – SPA) ของสหภาพยุโรป โดยเป็นแหล่งอาศัยของนกทะเลกว่า 30 ชนิด รวมถึง นกพัฟฟินแอตแลนติก (Atlantic Puffin), กิลลีมอต (Guillemot), เรเซอร์บิลล์ (Razorbill), คิทตีเวก (Kittiwake) และ เหยี่ยวเพเรกริน (Peregrine Falcon) นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็น แมวน้ำ โลมา และฉลามบาสกิ้ง ในน่านน้ำด้านล่างได้เช่นกัน
ทิวทัศน์โดยรอบ (Views and Surroundings)
ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นหมู่เกาะอารันที่ตั้งอยู่ในอ่าวกัลเวย์ เทือกเขาคอนนีมาราทางตอนเหนือ และคาบสมุทรดิงเกิลทางตอนใต้ ภาพของทะเล หมอก และแสงอาทิตย์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดวัน ทำให้แต่ละช่วงเวลาของการเยี่ยมชมหน้าผามอเฮอร์ไม่เคยซ้ำกันเลย
วัฒนธรรมและสื่อบันเทิง (Cultural and Cinematic Heritage)
หน้าผามอเฮอร์เป็นแรงบันดาลใจให้กวี ศิลปิน และนักเดินทางจากทั่วโลก และยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง เช่น The Princess Bride (1987) ในฉาก “Cliffs of Insanity” และ Harry Potter and the Half-Blood Prince (2009) ที่ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของหน้าผาแห่งนี้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความงดงามอันดิบของไอร์แลนด์
วิธีการเดินทาง
- สามารถเดินทางโดยรถยนต์จากเมืองกัลเวย์ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และจากกรุงดับลินประมาณ 3 ชั่วโมง มีบริการรถบัสและทัวร์นำเที่ยวจากเมืองใหญ่ต่าง ๆ ในไอร์แลนด์ หมู่บ้านใกล้เคียงอย่าง ดูลิน (Doolin) และ ลิสแคนเนอร์ (Liscannor) มีที่จอดรถ ที่พัก และร้านอาหารครบครัน อีกทั้งยังมีบริการล่องเรือชมหน้าผาจากทะเลที่ดูอลังการไม่แพ้กัน
คำแนะนำ
-
แนะนำให้มาในช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่เพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
-
สวมเสื้อผ้ากันลม เนื่องจากพื้นที่นี้ลมแรงมากตลอดปี
-
กรุณาเดินตามทางที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยและการอนุรักษ์ธรรมชาติ
-
สามารถเที่ยวต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติเดอะเบอร์เรน (The Burren National Park) หรือ ถ้ำเอลวี (Aillwee Cave)
-
หากมีโอกาส อย่าพลาดชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หน้าผาสวยที่สุด
ค่าเข้าชม:
-
ผู้ใหญ่: €10–€12 (รวมค่าจอดรถและเข้าชมศูนย์บริการนักท่องเที่ยว)
-
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี: เข้าชมฟรี
-
มีส่วนลดสำหรับครอบครัว นักเรียน และการจองออนไลน์
เวลาเปิดทำการ:
-
เปิดทุกวัน: 09.00 น. – 19.00 น. (เวลาปิดเปิดอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
-
ปิดรับนักท่องเที่ยวก่อนเวลาปิด 45 นาที