“ประภาคารอายุ 800 ปีที่ยังคงใช้งานได้จริง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม พร้อมชมวิวทะเลและร่วมกิจกรรมตลอดทั้งปี”
ประภาคารฮุค (Hook Lighthouse)ตั้งตระหง่านอยู่บนคาบสมุทรฮุคอันงดงาม เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์ทางทะเลของไอร์แลนด์ หอคอยสูงสี่ชั้นนี้สร้างขึ้นจากหินปูนท้องถิ่น มีความหนาของกำแพงถึง 4 เมตร และถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดของสถาปัตยกรรมประภาคารในยุคกลาง
ชื่อ “Hook” มีที่มาจากคำว่า รินน์ดูแวน (Rinn Dubháin) ซึ่งหมายถึง “แหลมของนักบุญดูแวน” โดยนักบุญดูแวน (Saint Dubhán) ได้ก่อตั้งอารามขึ้นในศตวรรษที่ 5 ในบริเวณนี้ แม้คำว่า Dubhán ในภาษาไอริชจะแปลว่า “เบ็ดตกปลา” แต่เชื่อว่าชื่อ “Hook” มาจากภาษาอังกฤษโบราณ หมายถึงแผ่นดินที่ยื่นออกไปในทะเล ตามตำนานกล่าวว่า พระสงฆ์จากอารามของนักบุญดูแวนได้ก่อกองไฟไว้บนแหลมเพื่อเตือนเรือให้หลีกเลี่ยงโขดหินอันตราย — ถือเป็นจุดกำเนิดของแสงไฟนำทางแห่งแรกในพื้นที่นี้
ต่อมาในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 พระสงฆ์ได้ย้ายออกไป และมีการแต่งตั้งผู้ดูแลประภาคารรุ่นแรกเข้ามาแทน ในปี ค.ศ. 1671 มีการติดตั้งตะเกียงถ่านหินแทนกองไฟดั้งเดิม ต่อมาในปี ค.ศ. 1791 มีการนำโคมไฟน้ำมันวาฬขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 ฟุต พร้อมหลอดไฟ 12 ดวงมาใช้ และในปี ค.ศ. 1871 ได้ติดตั้งตะเกียงแก๊ส โดยมีกระบวนการผลิตแก๊สอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “ลานแก๊ส (Gas Yard)”
ในทศวรรษ ค.ศ. 1860 มีการสร้างบ้านพักสามหลังให้แก่ผู้ดูแลประภาคารและครอบครัวของพวกเขา ต่อมาในปี ค.ศ. 1911 ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากน้ำมันพาราฟิน พร้อมกลไกนาฬิกาที่ทำให้แสงไฟกระพริบ ซึ่งต้องไขลานทุก ๆ 25 นาทีโดยผู้ดูแลเวรกลางคืน ในปี ค.ศ. 1972 ประภาคารได้เปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้า และติดตั้งสวิตช์อัตโนมัติควบคุมแสงไฟ จนกระทั่งในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1996 ประภาคารฮุคได้กลายเป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ควบคุมจากระยะไกลโดยสำนักงาน Commissioners of Irish Lights ที่เมืองดัน ลอรี (Dún Laoghaire)
ในปี ค.ศ. 2001 ประภาคารเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเป็นทางการ หลังจากบ้านพักผู้ดูแลเดิมถูกปรับปรุงเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและคาเฟ่ เสียงแตรหมอกของที่นี่ถูกเป่าขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายในเดือนมกราคม ค.ศ. 2011 เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ในเรือเดินสมุทรทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สัญญาณเสียงเตือนอีกต่อไป ในปีเดียวกันนั้น หนังสือท่องเที่ยว Lonely Planet ได้ยกย่องให้ประภาคารฮุคเป็นอันดับหนึ่งในรายการ “10 ประภาคารที่โดดเด่นที่สุดในโลก” และขนานนามว่าเป็น “ปู่แห่งประภาคารทั้งปวง (The Great Granddaddy of Lighthouses)”
ปัจจุบัน ประภาคารฮุคยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วม ทัวร์แบบมีไกด์ตลอดทั้งปี เพื่อชมชั้นใต้ดินและปีนขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดประภาคาร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้เข้าชมต้องซื้อตั๋วก่อนเวลา 17.00 น. นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเทศกาลและงานครอบครัวต่าง ๆ จัดขึ้นเป็นประจำตลอดปี
วิธีการเดินทาง
โดยรถยนต์:
-
จาก เมืองเวกซ์ฟอร์ด (Wexford Town) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ผ่านถนน R733
-
จาก เมืองวอเตอร์ฟอร์ด (Waterford City) ขับไปที่ Passage East แล้วขึ้น เรือเฟอร์รี่ Passage East Car Ferry ข้ามไปยัง Ballyhack ก่อนขับต่ออีกเล็กน้อย ใช้เวลารวมประมาณ 44–45 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 7–17 ยูโร
โดยรถสาธารณะ:
-
จาก Waterford หรือ Wexford Town นั่งรถ Bus Éireann หรือ Wexford Bus ไปยังเมือง New Ross แล้วต่อรถ TFI Local Link สาย 399 ไปยัง Hook Head
-
ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 11–51 นาที ขึ้นอยู่กับเวลาต่อรถ
คำแนะนำ
-
ควรจองตั๋วล่วงหน้า โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือฤดูร้อน
-
บริเวณหน้าผาใกล้ประภาคารเหมาะสำหรับถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกอย่างยิ่ง
-
ลมทะเลค่อนข้างแรง ควรเตรียมเสื้อกันลมติดตัว
ค่าเข้าชม:
-
ผู้เข้าชมภายในประภาคารต้องซื้อตั๋วก่อนเวลา 17.00 น. (ใช้เวลาชมประมาณ 1 ชั่วโมง)
-
ตรวจสอบราคาล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ Hook Heritage
เวลาเปิดทำการ:
-
กันยายน – มิถุนายน: เปิดทุกวัน 09.30 – 17.00 น. (มีทัวร์ทุกชั่วโมงตั้งแต่ 10.00 – 16.00 น.)
-
กรกฎาคม – สิงหาคม: เปิดขยายเวลาเพิ่มเติม