“พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อุทิศให้กับการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของการเลี้ยงไข่มุกในญี่ปุ่นและทั่วโลก จัดแสดงไข่มุกหลากหลายชนิด รวมถึงไข่มุกที่มีค่าที่สุดในโลก”
พิพิธภัณฑ์ไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Museum) ตั้งอยู่บนเกาะมิกิโมโตะ ซึ่งเป็นที่ที่โคอิจิ มิกิโมโตะประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงไข่มุกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1893 พิพิธภัณฑ์อุทิศให้กับประวัติศาสตร์ของการเลี้ยงไข่มุกในญี่ปุ่นและทั่วโลก ตลอดจนจัดแสดงไข่มุกหลากหลายชนิด รวมถึงไข่มุกที่มีค่าที่สุดในโลก การจัดแสดงครอบคลุมตั้งแต่การเลี้ยงไข่มุกในสมัยโบราณจนถึงเทคนิคสมัยใหม่ และแสดงถึงความสำคัญของไข่มุกในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ผู้เยี่ยมชมสามารถชมการสาธิตการดำน้ำเก็บไข่มุกโดยนักดำน้ำหญิงแบบดั้งเดิม อามะ รวมถึงอุปกรณ์และเทคนิคการเพาะเลี้ยงไข่มุกสมัยใหม่ คอลเลกชันเครื่องประดับไข่มุกประกอบด้วยเครื่องประดับที่บุคคลสำคัญและราชวงศ์สวมใส่ รวมถึงไข่มุกปี 2000 ซึ่งเป็นไข่มุกเลี้ยงทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมงกุฎมิกิโมโตะที่มีไข่มุกกว่า 10,000 เม็ด
นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ยังมีประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ เช่น การดำน้ำดูไข่มุกเสมือนจริงและเวิร์คช็อปการทำเครื่องประดับมุก ซึ่งผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้การสร้างเครื่องประดับมุกของตนเองได้ พิพิธภัณฑ์ไข่มุกมิกิโมโตะจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับทุกคนที่สนใจเกี่ยวกับไข่มุก วัฒนธรรมญี่ปุ่น หรือประวัติศาสตร์การเพาะเลี้ยงไข่มุก
วิธีการเดินทาง
- จากสถานี Toba ให้เดินทางโดยเรือข้ามฟากไปยังเกาะมิกิโมโตะ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีจากท่าเรือโทบะ
คำแนะนำ
- ควรเผื่อเวลา 1–2 ชั่วโมงในการชมพิพิธภัณฑ์และการสาธิตนักดำน้ำ อากาศบนเกาะอาจร้อนในฤดูร้อน แนะนำพกน้ำดื่มและหมวกกันแดด
ค่าเข้าชม:
- ผู้ใหญ่: 1,650 เยน
- เด็ก (6–15 ปี / ประถมและมัธยมต้น): 820 เยน
ค่าเข้ารวมทุกสิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะ เช่น พิพิธภัณฑ์ไข่มุก, ห้องจัดแสดงโคอิจิ มิกิโมโตะ และการสาธิตนักดำน้ำอามะ
ส่วนลด:
-
ส่วนลดสำหรับกลุ่ม 20 คนขึ้นไป
-
ตั๋วรวม (เช่น Toba Marumie Passport: Mikimoto Pearl Island, Toba Aquarium, Toba Bay Tour & Dolphin Island) ประหยัดกว่าซื้อแยก
เวลาเปิด-ปิด:
- โดยทั่วไป 9:00 – 17:00 (บางฤดูกาลอาจปิด 16:30 หรือ 17:30) ปิดทำการ 3 วันติดต่อกัน เริ่มจากวันอังคารที่สองของเดือนธันวาคม