โบสถ์ซานก็อททาร์โด อิน กอร์เต (St. Gotthard Church in Corte) ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1330–1336 โดยอัซโซเน วิสคอนติ เจ้าเมืองมิลาน เพื่อเป็นโบสถ์ส่วนตัวของราชสำนักในพระราชวังที่อยู่ติดกันซึ่งเดิมเรียกว่า Palazzo del Broletto Vecchio โบสถ์เดิมอุทิศให้กับพระแม่มารีย์ แต่ต่อมาถูกเปลี่ยนชื่ออุทิศให้แก่เซนต์ก็อตทาร์ดแห่งฮิลเดสไฮม์ นักบุญอุปถัมภ์ผู้คุ้มครองโรคเกาต์ ซึ่งเป็นโรคที่อัซโซเนเป็นอยู่

คุณสมบัติเด่นที่สุดของโบสถ์คือหอระฆังแปดเหลี่ยมออกแบบโดยฟรานเชสโก เปโครารี เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมลอมบาร์ดโกธิกที่ยอดเยี่ยม โดยใช้วัสดุสลับระหว่างอิฐสีชมพูและเสาหินอ่อนสีขาว หอระฆังนี้ยังเคยติดตั้งนาฬิกาสาธารณะแห่งแรกของมิลานในปี 1335 ทำให้พื้นที่รอบ ๆ ถูกเรียกว่า Contrada delle Ore (ย่านชั่วโมง)

แม้ว่าภายในโบสถ์จะถูกปรับปรุงเป็นสไตล์นีโอคลาสสิกในศตวรรษที่ 18 แต่ยังคงมีงานศิลปะสำคัญ ได้แก่ สุสานของอัซโซเน วิสคอนติ โดยจิโอวานนี ดิ บัลดูชิโอ, เศษภาพจิตรกรรมฝาผนังการตรึงกางเขนที่เชื่อว่ามาจากโรงเรียนจิโอตโต, และภาพแท่นบูชา Saint Charles in Glory โดยเชรานโน (จิโอวานนี บัตติสตา เครสปี)

• โบสถ์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองติดกับมหาวิหารดูโอโม ทางเข้าโบสถ์หลักมักผ่านทางพิพิธภัณฑ์ดูโอโม (Il Grande Museo del Duomo) ทำให้สามารถเดินไปถึงจากจัตุรัสดูโอโมได้สะดวก

• ควรมาเที่ยวในช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ ๆ เพื่อลดความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว

• ชมรายละเอียดสถาปัตยกรรมโกธิกของหอระฆังแปดเหลี่ยม ทั้งอิฐสีชมพูและเสาหินอ่อนสีขาว

• อย่าพลาดเศษภาพจิตรกรรมฝาผนังการตรึงกางเขนจากโรงเรียนจิโอตโตภายในโบสถ์

• สำรวจสุสานของอัซโซเน วิสคอนติ โดยจิโอวานนี ดิ บัลดูชิโอ

• ชมภาพแท่นบูชา Saint Charles in Glory โดยเชรานโน

• สามารถเที่ยวร่วมกับมหาวิหารดูโอโมและพระราชวัง Palazzo Reale ใกล้เคียงเพื่อประสบการณ์เต็มรูปแบบ

• ใช้ทางเข้าผ่านพิพิธภัณฑ์ดูโอโมเพื่อความสะดวก

ค่าธรรมเนียมเข้าชม:

• เข้าชมโบสถ์ฟรี งานศิลปะบางชิ้นอาจต้องเข้าชมผ่านตั๋วพิพิธภัณฑ์ดูโอโม

เวลาทำการ:

• ปกติเปิดตามเวลาของพิพิธภัณฑ์ดูโอโม โดยทั่วไป 9:00–19:00 น.