“หมู่บ้านเวเรโบเป็นที่รู้จักจากกลุ่มบ้านมุบะรุงกง เจ็ดหลังที่มีหลังคาสูงชัน รูปทรงกรวย และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังมีชีวิตซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาลึกอันเขียวขจี”
หมู่บ้านเวเรโบ(Wae Rebo Village) เป็นหมู่บ้านชนเผ่าดั้งเดิมของชาวมันกะไร ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงประมาณ 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนเกาะฟลอเรส ความโดดเด่นของหมู่บ้านคือบ้านเรือนแบบดั้งเดิม หรือที่เรียกว่า มุบะรุงกง ที่มีรูปทรงกรวยสูงชันและสร้างจากไม้ไผ่ มุงด้วยใบจาก โดยปกติจะมีห้าชั้น แต่ละชั้นมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องจาก UNESCO และยังคงรักษาประเพณีและวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างเคร่งครัด
เอกลักษณ์สำคัญคือโครงสร้างของบ้านมุบะรุงกงทั้งเจ็ดหลังที่หันหน้าเข้าหากัน ล้อมรอบลานกลางหมู่บ้านที่ใช้สำหรับทำพิธีกรรมทางศาสนาและกิจกรรมทางสังคม หมู่บ้านนี้เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมมันกะไร และเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ การมาเยือนที่นี่ต้องผ่านพิธีต้อนรับแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า วะเอลูคู โดยผู้อาวุโสของหมู่บ้าน เพื่อขออนุญาตจากบรรพบุรุษ
ช่วงเวลาที่น่าสนใจที่สุดคือการมาเยือนในช่วงฤดูแล้ง (เมษายน-ตุลาคม) ที่ท้องฟ้าเปิดและอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินป่าและถ่ายภาพ บรรยากาศที่นี่สงบและเป็นมิตร นักท่องเที่ยวจะได้รับการปฏิบัติเหมือนแขกเหรื่อ และได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย การทำเกษตรกรรม การทอผ้า และการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างแน่นแฟ้น การพักค้างคืนในบ้านมุบะรุงกงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ซึ่งรวมถึงการรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวเจ้าบ้าน
สำหรับ ช่างภาพและผู้รักในศิลปะการถ่ายภาพ หมู่บ้านเวเรโบนำเสนอภาพทิวทัศน์ที่งดงามของเมฆหมอกยามเช้าที่ปกคลุมหุบเขาและโครงสร้างบ้านที่ไม่เหมือนใคร นักเดินทางที่ต้องการ หลีกหนีความวุ่นวาย และคู่รักที่มองหาสถานที่ เงียบสงบและโรแมนติก ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ จะพบว่าที่นี่เป็นจุดหมายที่ลงตัวหมู่บ้านเวเรโบคืออัญมณีทางวัฒนธรรมที่ซ่อนเร้น ซึ่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันล้ำค่าและเข้าถึงแก่นแท้ของจิตวิญญาณอินโดนีเซีย
วิธีการเดินทาง
-
ครื่องบินและรถยนต์: บินไปลงสนามบินโคโมโด ที่เมืองลาบวนบาโจ จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์เช่าหรือรถสาธารณะไปยังหมู่บ้านเดนเก็น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเท้า
-
เดินเท้า: จากหมู่บ้านเดนเก็น ต้องเดินป่าขึ้นเขาระยะทางประมาณ 7-9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ผ่านป่าดิบชื้นที่สวยงามและเส้นทางที่ท้าทาย
-
การเดินทางแบบมีไกด์: แนะนำให้ใช้บริการไกด์ท้องถิ่นจากเมืองลาบวนบาโจ เพื่อความสะดวกในการเดินทางและการจัดเตรียมพิธีต้อนรับในหมู่บ้าน
คำแนะนำ
-
ฤดูกาลที่เหมาะสม: ควรเดินทางระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม ซึ่งเป็นฤดูแล้ง มีโอกาสเจอฟ้าใส เมฆหมอกยามเช้า และเส้นทางเดินเท้าจะแห้งกว่าในฤดูฝน
-
เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์: ควรเตรียมรองเท้าเดินป่าที่ทนทาน เสื้อกันฝนหรือร่ม ไฟฉาย และเสื้อผ้าที่อบอุ่น เนื่องจากอุณหภูมิในตอนกลางคืนจะลดต่ำลงมาก
-
การถ่ายภาพและทัศนียภาพ: เตรียมพร้อมสำหรับทิวทัศน์ที่ตระการตา แต่ควรเคารพความเป็นส่วนตัวของชาวบ้าน ควรขออนุญาตก่อนถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างพิธีกรรม
-
วัฒนธรรมท้องถิ่น: การเข้าเยี่ยมชมหมู่บ้านเป็นโอกาสพิเศษ ควรเตรียมชุดที่สุภาพเรียบร้อยและมีสติในการเข้าสู่บริเวณศักดิ์สิทธิ์และระหว่างพิธีกรรม
-
การวางแผนการเดินทาง: การเดินทางไปยังเดนเก็นค่อนข้างยาวนาน ควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน สำหรับการเยี่ยมชมและพักค้างคืนในหมู่บ้าน
ค่าเข้าชม:
-
ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าชมแบบค้างคืน (รวมอาหารและที่พัก): ประมาณ 325,000 IDR ต่อคน
-
ค่าเข้าชมเฉพาะวัน (ไม่ค้างคืน): ประมาณ 200,000 IDR ต่อคน
-
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นจึงควร ตรวจสอบกับผู้ให้บริการทัวร์ท้องถิ่นหรือหมู่บ้านโดยตรง เพื่อยืนยันราคาล่าสุดก่อนเดินทาง
เวลาเปิด-ปิด:
-
การเข้าเยี่ยมชมทั่วไป: เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่ผู้คนอาศัยอยู่จริง)
-
ข้อควรทราบพิเศษ: การเยี่ยมชมจะแนะนำในช่วงกลางวันและการพักค้างคืนต้องมีการจัดการล่วงหน้ากับทางหมู่บ้าน