“ทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของหน้าผาหินแกรนิตและหินทรายที่ขนาบข้างทุ่งนาข้าวและน้ำตกใส ทำให้ที่นี่ถูกขนานนามว่าเป็น "โยเซมิตีแห่งอินโดนีเซีย"”
หุบเขาฮารู (Harau Valley) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะสุมาตราตะวันตก โดยมีลักษณะเด่นคือ หน้าผาหินยักษ์ที่สูงระหว่าง 100 ถึง 500 เมตรตัดกับผืนฟ้าอย่างตระหง่าน ผนังหินเหล่านี้เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกและเชื่อว่าพื้นที่นี้เคยเป็นท้องทะเลมาก่อน ทำให้เกิดภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์ใจ เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของหุบเขาฮาราวคือความตัดกันอย่างลงตัวระหว่าง ความยิ่งใหญ่ของหินผาสีน้ำตาลแดง กับ ความเขียวชอุ่มของทุ่งนาข้าว ที่แผ่กว้างเบื้องล่าง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับน้ำตกเล็กใหญ่หลายแห่งที่ไหลลงมาจากหน้าผา เช่น น้ำตก Air Terjun Lembah Harau และ Sarasah Bunta ซึ่งเป็น แหล่งน้ำที่บริสุทธิ์และสดชื่น สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติกเหมาะแก่การพักผ่อน
กิจกรรมหลักสำหรับผู้มาเยือนคือการเดินสำรวจหุบเขา ปั่นจักรยาน หรือเช่ารถจักรยานยนต์เพื่อชมทัศนียภาพอันกว้างใหญ่ไพศาล โดยเฉพาะในช่วง ฤดูแล้ง (พฤษภาคม – กันยายน) เป็นช่วงที่ท้องฟ้าเปิดและทุ่งนามีสีเขียวสดใสที่สุด ผู้คนในท้องถิ่นที่นี่มีอัธยาศัยดี ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับ วิถีชีวิตชนบทแบบดั้งเดิม ของชาวมินังกะเบาอย่างใกล้ชิดหุบเขาแห่งนี้เป็นสวรรค์ของ ช่างภาพ ที่ชื่นชอบทิวทัศน์ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ คู่รักและผู้ที่แสวงหาความสงบ เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง นอกจากนี้ยังมีจุดสำหรับ ผู้ที่สนใจการปีนหน้าผา ได้มาทดสอบความสามารถบนผนังหินที่ท้าทาย
มาสัมผัสความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และดื่มด่ำกับความเงียบสงบของหุบเขาฮาราว ที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติอย่างแท้จริง
วิธีการเดินทาง
-
จากเมืองบุคิตติงกี: นั่งรถตู้หรือรถประจำทางไปยังเมืองปายากุมบุฮ์ (Payakumbuh)
-
จากปายากุมบุฮ์: สามารถต่อรถมินิบัส (Angkot) หรือเช่ารถจักรยานยนต์รับจ้าง (Ojek) ตรงเข้าสู่ Lembah Harau
-
การเดินทางด้วยรถยนต์เช่า: ขับรถไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ Bukittinggi ผ่าน Kelok 9 ซึ่งเป็นสะพานและทางโค้งที่น่าสนใจ
คำแนะนำ
-
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวชม คือช่วงฤดูแล้งระหว่าง พฤษภาคมถึงกันยายน เพื่อให้แน่ใจว่าการเดินทางจะสะดวกและทัศนียภาพชัดเจนที่สุด
-
ควรสวมใส่รองเท้าที่สวมใส่สบายหรือรองเท้าสำหรับเดินป่า เนื่องจากมีการเดินสำรวจพื้นที่และน้ำตกหลายแห่ง
-
พกพาอุปกรณ์กันฝนในช่วงนอกฤดูแล้ง และอย่าลืมครีมกันแดดและหมวกในช่วงกลางวัน
-
ลองลิ้มรสอาหารท้องถิ่นของชาวมินังกะเบา (Minangkabau) ในหมู่บ้าน และอย่าพลาดการชมวิถีชีวิตชาวนาในยามเช้า
-
พิจารณาเช่าจักรยานเพื่อสำรวจพื้นที่ภายในหุบเขาอย่างช้า ๆ และดื่มด่ำกับบรรยากาศ
ค่าเข้าชม (โดยประมาณ):
-
ผู้เยี่ยมชมท้องถิ่น: ประมาณ IDR 5,000 - 10,000 (อินโดนีเซียรูเปียห์) ต่อคน
-
ผู้เยี่ยมชมต่างชาติ: ค่าเข้าอาจสูงกว่าเล็กน้อย (โปรดตรวจสอบ ณ จุดเข้าชม)
เวลาเปิด-ปิด:
-
เปิดทำการทุกวัน: โดยทั่วไปตั้งแต่เช้าตรู่ถึงเย็น (มักเป็น 08:00 – 17:00 น. สำหรับบางจุดท่องเที่ยว/น้ำตก)
-
หมายเหตุ: การชมวิวทิวทัศน์โดยรอบสามารถทำได้ตลอดเวลาที่มีแสงสว่าง