“เกาะไก่มีชื่อเสียงจากโขดหินที่มีรูปร่างคล้ายหัวไก่ โดดเด่นกลางทะเล อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสามเกาะที่เชื่อมด้วยสันทรายขาว เกิดเป็นทะเลแหวกที่น่าตื่นตาในช่วงน้ำลด”
เกาะไก่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา–หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นหนึ่งในสามเกาะที่ประกอบกันเกิดเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกว่า "ทะเลแหวก" ได้แก่ เกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อ ซึ่งสามารถเดินข้ามถึงกันได้ในช่วงน้ำทะเลลดลง สันทรายขาวสะอาดทอดยาวกลางทะเล กลายเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพื้นที่นี้
จุดเด่นของเกาะไก่ คือโขดหินสูงปลายเกาะที่มีรูปร่างคล้ายหัวไก่ จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะ และกลายเป็นมุมถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือนสามารถดำน้ำตื้นได้รอบเกาะ โดยเฉพาะทางด้านตะวันออกและตะวันตก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแนวปะการังน้ำตื้นและฝูงปลาสีสันสวยงามให้ชมอย่างใกล้ชิด
นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวเกาะไก่เป็นแพ็กเกจแบบครึ่งวันหรือเต็มวัน ซึ่งมักรวมอยู่ในการท่องเที่ยว 4 เกาะ (Four Islands Tour) จากหาดอ่าวนางหรือท่าเรือใกล้เคียง เรือที่ให้บริการส่วนใหญ่เป็นเรือหางยาวท้องถิ่น หรือเรือสปีดโบ๊ตที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว
สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะมีจำกัดมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์ตามนโยบายของอุทยาน จึงไม่มีร้านอาหาร ร้านค้า หรือที่พักบนเกาะ นักท่องเที่ยวควรเตรียมน้ำดื่มและของใช้ส่วนตัวให้พร้อม และนำขยะกลับขึ้นฝั่งเพื่อรักษาความสะอาดของธรรมชาติ
ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะไก่จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ทะเลสงบ แดดดี น้ำใส และเหมาะสำหรับการชมทะเลแหวกมากที่สุด ความสวยงามของเกาะไก่และทะเลแหวกถือเป็นหนึ่งในจุดหมาย "Unseen in Thailand" ที่ควรไปสัมผัสด้วยตาตนเองอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต
วิธีการเดินทาง
-
จากหาดอ่าวนาง: โดยสารเรือหางยาว ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
-
จากตัวเมืองกระบี่: เดินทางโดยรถยนต์หรือรถตู้มายังหาดนพรัตน์ธารา แล้วต่อเรือ
-
จากสนามบินกระบี่: ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีถึงท่าเรือ แล้วต่อเรืออีก 10–15 นาที
คำแนะนำ
-
ตรวจสอบเวลา น้ำขึ้น–น้ำลง เพื่อไม่พลาดทะเลแหวก
-
พกครีมกันแดด หมวก แว่นกันแดด และน้ำดื่ม
-
ใส่รองเท้าที่เหมาะกับเดินบนทรายและโขดหิน
-
เคารพธรรมชาติ ไม่สัมผัสปะการังหรือเก็บสิ่งมีชีวิต
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 06:00–17:00 น.
ค่าเข้าอุทยานฯ: ชาวไทย 40 บาท / ชาวต่างชาติ 400 บาท
ค่าเรือ: เริ่มต้นประมาณ 1,500–2,000 บาท (ต่อเที่ยวแบบกลุ่ม)
ช่วงเวลาแนะนำ: พฤศจิกายน – พฤษภาคม