“พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ อันมี ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง”
วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยของ พระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์ โดยสถานที่แห่งนี้เดิมเคยเป็นพระราชฐานของพระองค์ ซึ่งทรงพระราชทานอุทิศถวายให้เป็นวัดเพื่อเป็นพุทธบูชาหลังจากที่พระบรมสารีริกธาตุได้ปรากฏให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรในบริเวณดังกล่าว
โบราณสถานที่สำคัญในวัด
-
องค์พระธาตุหริภุญชัย: เป็นปูชนียสถานสำคัญที่พระเจ้าอาทิตยราชทรงสถาปนาขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งประกอบด้วย ธาตุกระหม่อม, ธาตุกระดูกอก, ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง ตามคัมภีร์ตำนานกล่าวว่าองค์เจดีย์ในยุคแรกมีลักษณะเป็นสถูปสี่เหลี่ยมทรงปราสาทที่มีซุ้มประตูเข้า-ออกได้ทั้งสี่ด้าน และได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์หลายครั้งตลอดหลายศตวรรษจนกระทั่งในสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา จึงได้เปลี่ยนรูปทรงเป็นเจดีย์ทรงลังกาแบบที่เห็นในปัจจุบัน และยังคงได้รับการปิดทององค์เจดีย์อย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ วัดแห่งนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดสำหรับผู้ที่เกิด ปีระกา อีกด้วย
-
ซุ้มประตูโขง: ทางเข้าวัดมี ซุ้มประตูโขง ขนาดใหญ่ที่ก่อด้วยอิฐและปูนประดับลวดลายปูนปั้นแบบโบราณ มีลักษณะเป็นซุ้มยอดซ้อนกันหลายชั้น ด้านหน้ามี สิงห์คู่ ขนาดใหญ่ยืนสง่าเป็นประติมากรรมนูนสูง ซึ่งถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่พระเจ้าอาทิตยราชทรงถวายวังให้เป็นพุทธสถาน
-
วิหารหลวง: เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นใหม่ทดแทนวิหารหลังเดิมที่พังทลายลงจากพายุเมื่อปี พ.ศ. 2466 ภายในวิหารมีระเบียงล้อมรอบและมีมุขยื่นออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นสถานที่ประกอบศาสนพิธีสำคัญและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลายองค์
-
สุวรรณเจดีย์ หรือ เจดีย์ปทุมวดี: ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุ สร้างด้วยศิลาแลงและอิฐ มีลักษณะคล้ายเจดีย์กู่กุดที่วัดจามเทวี โดยมีฐานสี่เหลี่ยมซ้อนกันขึ้นไปห้าชั้น แต่ละชั้นมีซุ้มจรนำประดิษฐานพระพุทธรูปดินเผาปางยืน ซึ่งเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระพิมพ์สำคัญและมีชื่อเสียงของเมืองลำพูน นั่นคือ พระเปิม
-
หอไตร: อาคารสำหรับเก็บรักษาพระไตรปิฎก ตั้งอยู่ในบริเวณวัด มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยการสร้างเป็นอาคารไม้สองชั้นบนฐานสูง ออกมุขทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยชั้นบนมีการแกะสลักและลงรักปิดทองอย่างสวยงาม
-
หอระฆัง: สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2481 เพื่อเป็นสถานที่สำหรับแขวนระฆังและกังสดาลขนาดใหญ่ โดยระฆังขนาดใหญ่นั้นหล่อขึ้นในสมัยเจ้าหลวงดาราดิเรกรัตนไพโรจน์ ส่วนกังสดาลขนาดใหญ่หล่อขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อใช้เป็นเครื่องบูชาพระธาตุหริภุญชัย
วิธีการเดินทาง
-
รถส่วนตัว: จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน (ทางหลวงหมายเลข 106) ระยะทางประมาณ 25-30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-45 นาที
-
รถโดยสารสาธารณะ: สามารถใช้บริการรถสองแถวสีแดงหรือรถมินิบัสปรับอากาศจากบริเวณตลาดวโรรส (กาดหลวง) ในเชียงใหม่ ไปยังตัวเมืองลำพูนได้โดยตรง
คำแนะนำ
- ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เช่น สวมเสื้อมีแขน กางเกงหรือกระโปรงยาวคลุมเข่า เพื่อเป็นการให้เกียรติสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
-
หากต้องการร่วมงานประเพณีสำคัญ สามารถมาในช่วงวันเพ็ญเดือน 6 (ประมาณเดือนพฤษภาคม) ซึ่งจะมีการจัดงานนมัสการและสรงน้ำพระธาตุเป็นประจำทุกปี
รีวิวทั้งหมด
(รีวิว 13 รายการ)รีวิวเมื่อ 11 พ.ค. 56
ตั้งอยู่หลังวิหารพระพุทธ ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองมาจากอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
รีวิวเมื่อ 11 พ.ค. 56
รีวิวเมื่อ 11 พ.ค. 56
รีวิวเมื่อ 11 พ.ค. 56
รีวิวเมื่อ 11 พ.ค. 56
รีวิวเมื่อ 11 พ.ค. 56
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกขององค์พระธาตุหริภุญชัย ภายในประดิษฐานพระทันใจ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนซึ่งถือว่าเป็น พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถบันดาลให้ผู้ที่กราบไหว้สมหวังทันใจ
รีวิวเมื่อ 11 พ.ค. 56
พระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ทาด้วยสีแดง
รีวิวเมื่อ 9 ส.ค. 53
รีวิวเมื่อ 9 ส.ค. 53
รีวิวเมื่อ 9 ส.ค. 53
รีวิวเมื่อ 9 ส.ค. 53
รีวิวเมื่อ 9 ส.ค. 53
วัดพระธาตุหริภุญชัยเป็นที่รู้จักดีในหมู่คนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวลานนาไทย เพราะว่าวัดนี้เป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดลำพูน
รีวิวเมื่อ 9 ส.ค. 53