วัดหนองป่าพง เป็นวัดป่าสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2497 โดยพระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท) พระเถระผู้มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและเผยแผ่แนวทางพระพุทธศาสนาแบบวัดป่าในประเทศไทย หลวงปู่ชาได้เน้นการปฏิบัติธรรมที่เรียบง่าย สงบ และตรงไปตรงมา โดยสอนให้ยึดหลักการเจริญสติภาวนาและการใช้ชีวิตอย่างสมถะ

วัดหนองป่าพงตั้งอยู่ในป่าธรรมชาติที่ร่มรื่น เน้นการใช้สิ่งแวดล้อมรอบตัวให้เป็นเครื่องฝึกสติและสมาธิ บรรยากาศภายในวัดเรียบง่ายและเคร่งครัด พระสงฆ์และผู้ปฏิบัติจะใช้ชีวิตตามระเบียบวัตรของพระป่า คือการบิณฑบาต ฉันอาหารเพียงมื้อเดียว การอยู่ป่า และการภาวนาเป็นกิจวัตร สิ่งเหล่านี้ทำให้วัดหนองป่าพงกลายเป็นแบบอย่างของการปฏิบัติพระธรรมวินัยที่มั่นคง

จุดสำคัญที่ดึงดูดผู้คนให้มากราบสักการะคือ ศาลาสรีระสังขารของหลวงปู่ชา ซึ่งเก็บรักษาร่างของท่านที่แม้ละสังขารไปแล้ว แต่ร่างกายยังคงไม่เน่าเปื่อย กลายเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ชา ที่จัดแสดงเครื่องอัฐบริขาร ข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งเอกสาร ภาพถ่าย และบันทึกต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงชีวิตและคำสอนของท่าน

หลวงปู่ชามีชื่อเสียงในการสอนพระฝรั่ง โดยท่านสามารถใช้ภาษาอังกฤษพื้นฐานเพื่ออธิบายหลักธรรมแก่ศิษย์ชาวต่างชาติที่มาศึกษาธรรมกับท่าน วัดหนองป่าพงจึงกลายเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ต่างประเทศ ปัจจุบันมีวัดสาขาของวัดหนองป่าพงมากกว่า 300 แห่งทั่วโลก ทั้งในประเทศไทย อังกฤษ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศ

นอกจากบทบาทด้านการเผยแผ่ธรรมะแล้ว วัดหนองป่าพงยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาสามารถเข้ามาเรียนรู้วิถีการปฏิบัติธรรมแบบวัดป่าได้ บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ จึงเป็นที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการแสวงหาความสงบภายในจิตใจ การเข้ามาที่นี่ไม่เพียงเป็นการท่องเที่ยวเชิงศาสนา แต่ยังเป็นการเรียนรู้แนวคิดในการละวาง ความเรียบง่าย และการใช้ชีวิตอย่างมีสติ

ทุกปีจะมีงาน “วันหลวงปู่ชา” เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของท่าน โดยมีพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์จากทั่วโลกมาร่วมงานนับพันคน กิจกรรมสำคัญในงานประกอบด้วยการฟังธรรมเทศนา การทำบุญตักบาตร และการปฏิบัติธรรมร่วมกัน

ด้วยความสำคัญทั้งในด้านศาสนา การศึกษา และวัฒนธรรม วัดหนองป่าพงจึงเป็นทั้งศูนย์กลางจิตวิญญาณของชาวพุทธ และเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานีที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

• จากตัวเมืองอุบลราชธานี ใช้ถนนวารินชำราบ – กันทรลักษ์ (ทางหลวงหมายเลข 217) ประมาณ 12 กิโลเมตร จะพบป้ายทางเข้าวัดหนองป่าพง จากนั้นเลี้ยวเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตรก็ถึงวัด สามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสองแถวที่วิ่งจากตัวเมืองวารินชำราบ

• ควรแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย งดใส่กางเกงขาสั้นหรือเสื้อแขนกุด

• งดส่งเสียงดัง รบกวนผู้ที่มาปฏิบัติธรรม

• หากสนใจเข้าพักปฏิบัติธรรม ควรติดต่อวัดล่วงหน้า

• ควรเยี่ยมชมอย่างมีสติและเคารพสถานที่

Entrance Fee

• ฟรี

Opening Hours

• ทุกวัน เวลา 05.00 – 18.00 น.