ไทรงาม (Sai Ngam) แห่งเมืองพิมายนี้คือกลุ่ม ต้นไทรยักษ์ ชนิดหนึ่งในวงศ์ไทร (Ficus) ที่มีขนาดใหญ่โตและแผ่ขยายกิ่งก้านสาขาจนเกิดเป็นภูมิทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง ต้นไทรกลุ่มนี้มีอายุกว่า 350 ปี โดยเชื่อกันว่าจุดเริ่มต้นคือต้นไทรเพียงต้นเดียวที่เติบโตริมแม่น้ำมูล จากนั้นกิ่งก้านที่ทอดลงมาสู่พื้นดินก็ได้หยั่งรากลงไปในดินและเติบโตเป็นต้นใหม่ วนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาติ ทำให้เกิดเป็นวงจรชีวิตที่ซับซ้อนและแน่นหนา

ความมหัศจรรย์ของไทรงามคือการสร้างปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกว่า "ป่าไทร" หรือ "อุโมงค์ไทร" ซึ่งกินพื้นที่กว้างขวางกว่า 1,000 ตารางเมตร เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นเป็นกำแพงรากไม้ขนาดใหญ่ที่พันกันหนาแน่น แต่เมื่อเดินเข้าไปข้างในจะพบกับความร่มรื่นเย็นสบายอย่างน่าประหลาด ราวกับได้เดินเข้าไปในห้องโถงธรรมชาติที่เต็มไปด้วยเสาและเพดานที่เกิดจากรากและกิ่งของต้นไทร

ในอดีต สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า "ไทรงาม" ตามลักษณะความสวยงามตามธรรมชาติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2490-2500 มีการค้นพบว่ากลุ่มต้นไทรนี้เป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าแม่ไทรงาม ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพารักษ์ที่คอยปกปักรักษาพื้นที่ จึงมีการจัดสร้าง ศาลเจ้าแม่ไทรงาม ขึ้นภายในบริเวณใต้ร่มเงาของต้นไทร เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพร ขอความร่มเย็นเป็นสุข หรือขอในสิ่งที่ปรารถนา โดยเฉพาะเรื่องความรักและความสำเร็จ

บริเวณรอบๆ ไทรงามได้รับการพัฒนาให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา มีการจัดสร้างทางเดินที่สะดวกและปลอดภัยให้เดินชมความยิ่งใหญ่ของรากไทรได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีการจัดการให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้นำสินค้าพื้นเมือง ผลผลิตทางการเกษตร และ อาหารพื้นบ้านของพิมาย มาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว เป็นการสร้างรายได้และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์แหล่งธรรมชาติอันทรงคุณค่าแห่งนี้ ไทรงามจึงไม่ได้เป็นเพียงต้นไม้ แต่เป็นศูนย์รวมทางจิตวิญญาณและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของชุมชนพิมายอีกด้วย

• รถยนต์ส่วนตัว: ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) จนถึงแยกตลาดแค เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 206 จนถึงอำเภอพิมาย เมื่อถึงตัวอำเภอให้มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไทรงามจะอยู่ริมแม่น้ำมูล

• รถสาธารณะ: สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งนครราชสีมาไปยังอำเภอพิมาย จากนั้นต่อรถสามล้อรับจ้างไปยังสถานที่

• ควรมาในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์และแสงที่สวยงามสำหรับการถ่ายภาพ

• ใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมงในการเดินสำรวจรากไทรและกิ่งก้าน

• การแต่งกายสุภาพเนื่องจากเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ

ค่าเข้าชม:

• ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิดปิดทำการ:

• เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 น. จนถึง 18:00 น.