“วัดกู่เต้าโดดเด่นด้วยเจดีย์กู่เต้าที่มีลักษณะทรงน้ำเต้า 5 ชั้น ประดับด้วยปูนปั้นและกระเบื้องเคลือบสีสวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะยูนนานและพม่า วัดนี้ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมไทใหญ่และจัดงานปอยส่างลอง ซึ่งเป็นประเพณีบวชสามเณรอันสำคัญสำหรับชุมชน”
วัดกู่เต้า หรือชื่อทางการคือ วัดเวฬุวนาราม (แปลว่า วัดในป่าไผ่) เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2156 ในสมัยที่พม่าเข้ามาปกครองล้านนา ชื่อ "กู่เต้า" มาจากภาษาพื้นเมืองล้านนา โดย "กู่" แปลว่า ที่บรรจุอัฐิ และ "เต้า" แปลว่า ผลแตงโมหรือน้ำเต้า รวมความว่า "ที่บรรจุอัฐิทรงน้ำเต้า"
เจดีย์กู่เต้า: สถาปัตยกรรมหนึ่งเดียวในล้านนา
เจดีย์กู่เต้าเป็นงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์สูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
-
รูปทรง: องค์เจดีย์เป็นทรงกลม คล้ายบาตรพระหรือผลน้ำเต้าขนาดใหญ่ 5 ลูก วางซ้อนลดหลั่นกันจากฐานขึ้นไป ซึ่งลักษณะรูปทรง 5 ชั้นนี้ เชื่อกันว่าหมายถึงพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ในพุทธศาสนามหายาน เจดีย์สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระอัฐิของพระเจ้านรธาเมงสอ ผู้ปกครองเมืองเชียงใหม่คนแรกที่เป็นชาวพม่า
-
การประดับ: เจดีย์ประดับด้วยปูนปั้นและกระเบื้องเคลือบสี ลวดลายดอกไม้เล็ก ๆ ทั่วองค์เจดีย์อย่างงดงามและประณีต เป็นรูปแบบศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากยูนนาน (จีน) และพม่า
ศูนย์กลางวัฒนธรรมไทใหญ่และงานปอยส่างลอง
วัดกู่เต้าเป็นศูนย์รวมจิตใจและวัฒนธรรมของชาวไทใหญ่ (Shan) ในจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นสถานที่หลักในการจัดงานปอยส่างลอง ซึ่งเป็นประเพณีบวชสามเณรของชาวไทใหญ่
-
ความสำคัญของงาน: เป็นประเพณีบวชสามเณร ถือเป็นบุญใหญ่ของครอบครัวและชุมชน เพื่อส่งเสริมให้เด็กชายเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ตามรอยพระพุทธเจ้า
-
ส่างลอง (ลูกแก้ว): เด็กชายที่เข้าร่วมพิธีจะเรียกว่า "ส่างลอง" หรือ "ลูกแก้ว" แต่งกายด้วยชุดและเครื่องประดับงดงามเหมือนเจ้าชาย พร้อมแต่งหน้าอย่างวิจิตรตลอดงาน
-
ขบวนแห่: ส่างลองจะไม่เดินเท้าเปล่า แต่ขี่ม้า หรือให้พี่เลี้ยงหามตามถนน เป็นสัญลักษณ์ของการละทิ้งชีวิตฆราวาสก่อนเข้าสู่ความสมถะ
วิธีการเดินทาง
โดยรถยนต์ส่วนตัว/รถรับจ้าง:
- จากตัวเมืองเชียงใหม่ เดินทางไปยังตำบลศรีภูมิ ผ่านถนนหลังสนามกีฬา สามารถเข้าถึงวัดได้สะดวก
คำแนะนำ
-
เจดีย์: อย่าลืมสังเกตรูปทรงของเจดีย์ที่แปลกตาและลวดลายการประดับกระจกสีที่สวยงาม
-
งานประเพณี: หากมีโอกาสมาเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคม/เมษายน ของทุกปี (ขึ้นอยู่กับการกำหนดวันจัดงาน) ขอแนะนำให้แวะมาชมงานปอยส่างลอง ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งจะจัดอย่างยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยสีสันทางวัฒนธรรม
-
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว: สามารถเยี่ยมชมได้ตลอดปี แต่ช่วงเช้าถึงบ่ายแก่ ๆ เหมาะสำหรับการชมรายละเอียดสถาปัตยกรรมและเจดีย์
-
ข้อแนะนำ: เนื่องจากเจดีย์และอาคารวัดเป็นโบราณสถาน ควรสำรวม เดินชมอย่างระมัดระวัง ไม่สัมผัสโบราณวัตถุ
-
การแต่งกาย: ควรแต่งกายสุภาพเมื่อเข้าเยี่ยมชมวัด
-
เหมาะสำหรับ: ผู้สนใจวัฒนธรรมไทใหญ่และประเพณีพื้นบ้าน
-
การถ่ายภาพ: แนะนำถ่ายภาพโดยไม่ใช้แฟลชกับงานศิลปะเก่า
ค่าเข้าชม:
- ฟรี
เวลาเปิด-ปิด:
- เปิดทุกวัน 06:00 – 18:00
รีวิวทั้งหมด
(รีวิว 3 รายการ)รีวิวเมื่อ 27 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 27 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 27 ก.ค. 53