“ทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความยาวถึง 134 กม. โอบล้อมด้วยภูเขาหินทรายและท้องฟ้าแจ่มใส ไร้แสงไฟรบกวน เหมาะสำหรับชมดาวและถ่ายภาพทางช้างเผือก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพักแรมแบบเต็นท์และบังกะโลเล็ก ๆ กลางธรรมชาติ”
ทะเลสาบพันกอง (Pangong Lake) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ตั้งอยู่บนที่สูงเฉลี่ย 4,350 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในเทือกเขาหิมาลัย เขตลาดักห์ ประเทศอินเดีย มีความยาวถึง 134 กิโลเมตร โดยประมาณ 60% ของทะเลสาบอยู่ในประเทศจีน และอีกส่วนหนึ่งอยู่ในอินเดีย รวมพื้นที่ประมาณ 604 ตารางกิโลเมตร
ทะเลสาบนี้โดดเด่นด้วยน้ำสีครามสดใสและภูมิประเทศที่เป็นภูเขาหินทรายล้อมรอบ ท้องฟ้ามักปลอดโปร่งแทบไม่มีเมฆตลอดปี ทำให้เป็นจุดชมดาวและทางช้างเผือกที่สวยงามไร้มลภาวะทางแสง เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายผจญภัยและนักถ่ายภาพ
ในช่วงฤดูหนาว น้ำทะเลจะกลายเป็นน้ำแข็ง และสภาพอากาศหนาวจัดจนถึงติดลบ ทำให้การเดินทางและการพักอาศัยท้าทายอย่างมาก พื้นที่นี้จึงเหมาะสำหรับการเดินทางในช่วงฤดูร้อนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง (สิงหาคม-ต้นตุลาคม)
ที่พักค้างแรม เป็นเต้นท์ส่วนใหญ่ แต่พอมีที่พักเป็นบังกะโลเรือนแถวอยู่บ้าง (ผมเองก็พักที่นี่ เมื่อปลาย ต.ค. 60) อากาศหนาวเย็นเกือบติดลบ รถยนต์ที่มาด้วยมีน้ำแข็งเกาะค้างเครื่องยนต์ เช้ามารถสตาร์ทไม่ติด ไฟฟ้า เปิด-ปิดเป็นเวลา น้ำอุ่นเปิดน้อยมาก(เรียกว่าไม่มี จะดีกว่า) อาศัยน้ำร้อนในกระติก (ขอจากครัว ห้องอาหาร) พอใช้เพื่อล้างหน้าแปรงฟันได้อยู่ สำหรับท่านใดต้องการพักค้างแรมที่นี่ต้องเตรียมตัวอย่างมาก เช่น เครื่องนอน ชุดกันหนาวต่างๆ ถุงนอน ถุงน้ำร้อน(ไว้นอนกอด) ไฟฉาย และอาหารกระป๋อง
วิธีการเดินทาง
-
ขับรถจากเมืองเลห์ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ผ่านถนนทางหลวงเลห์-สปิติก (Leh-Spiti Highway) ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านภูเขาสูงชันและมีทิวทัศน์สวยงาม
-
ควรเช่ารถพร้อมคนขับหรือร่วมทัวร์ที่มีไกด์เพราะเส้นทางบางช่วงอาจอันตรายและเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ
-
แนะนำให้ตรวจสอบสภาพถนนและสภาพอากาศล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่ถนนบางช่วงอาจปิดเนื่องจากหิมะตก
คำแนะนำ
-
เตรียมอุปกรณ์กันหนาวอย่างดี เช่น เสื้อกันหนาวหนา, ถุงมือ, หมวก, ถุงนอนแบบหนา, และถุงน้ำร้อนสำหรับกอดในคืนที่อากาศหนาวจัด
-
เต็นท์และบังกะโลส่วนใหญ่ไม่มีระบบไฟฟ้าหรือไฟฟ้าเปิด-ปิดตามเวลาที่จำกัด น้ำร้อนมีให้ใช้เพียงน้อยมาก จึงควรเตรียมอาหารกระป๋องและน้ำดื่มให้เพียงพอ
-
เตรียมไฟฉายและอุปกรณ์ส่องสว่างอื่น ๆ เพราะในยามค่ำคืนจะมืดมาก
-
รักษาสุขภาพและระวังอาการแพ้ความสูง (Altitude Sickness) โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทางและพักผ่อนให้เพียงพอ
-
พักค้างคืนบริเวณทะเลสาบเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก รวมถึงชมดาวในคืนที่ฟ้าแจ่ม
-
ควรเคารพธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยไม่ทิ้งขยะและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ตั้งไว้
ค่าธรรมเนียมเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวันตลอดปี แต่ฤดูท่องเที่ยวที่เหมาะสมคือเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนตุลาคม