“ศาลเจ้าที่เป็นหัวใจแห่งศรัทธาและสัญลักษณ์ของการพัฒนาเกาะฮอกไกโด ภายใต้พระราชโองการแห่งจักรพรรดิเมจิ”
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Jingu) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1869 (พ.ศ. 2412) ตามพระราชโองการของ จักรพรรดิเมจิ เพื่อเป็นศาลเจ้าหลวงประจำเกาะฮอกไกโดในช่วงที่รัฐบาลเริ่มพัฒนาและขยายอาณาเขตไปสู่ดินแดนทางเหนือ
พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประดิษฐานเทพเจ้าทั้งสามองค์ ได้แก่
-
เทพโอคุนิตามะ (Ōkunitama no Ōkami) เทพผู้ปกปักรักษาผืนแผ่นดินและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
-
เทพโอนามุจิ (Ōnamuchi no Ōkami หรือ Ōkuninushi) เทพแห่งการสร้างและพัฒนาผืนดิน
-
เทพสุกุนาฮิโกะนะ (Sukunahikona no Ōkami) เทพแห่งการรักษาและการสร้างสุขภาวะให้มนุษย์
เทพทั้งสามองค์นี้เรียกรวมกันว่า “คาอิตาคุซังชิน” (Kaitaku Sanshin) หรือ “เทพเจ้าผู้บุกเบิก” เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ ความเพียรพยายามของมนุษย์ และสุขภาพในการดำรงชีวิต ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิด “ศาสนาแห่งผู้บุกเบิก (Pioneer Theology)” ของรัฐในยุคนั้น ที่มองว่าการพัฒนาเกาะฮอกไกโดเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการอวยพรจากสวรรค์
ในปี ค.ศ. 1871 (พ.ศ. 2414) มีการอัญเชิญสถิตวิญญาณของเทพเจ้าทั้งสามจากกรุงโตเกียวมายังซัปโปโร และประดิษฐานถาวร ณ ที่ตั้งปัจจุบัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) ได้มีการเพิ่มเทพเจ้าองค์ที่สี่ คือ ดวงพระวิญญาณของจักรพรรดิเมจิ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมแห่งความจงรักภักดีและความศรัทธาของชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศ
บริเวณศาลเจ้าตั้งอยู่ในป่าดิบดั้งเดิมของ สวนมารุยามะ (Maruyama Park) ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิจะงดงามด้วยดอกซากุระและบ๊วยที่บานพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมี ศาลเจ้ารองสามแห่ง ที่สะท้อนจิตวิญญาณของผู้บุกเบิกฮอกไกโด ได้แก่
-
คาอิตาคุจินจะ (Kaitaku Jinja): สร้างขึ้นในปี 1938 เพื่ออุทิศแด่ 37 ผู้บุกเบิกฮอกไกโด เช่น โยชิทาเกะ ชิมะ และทาเคะชิโระ มัตสึอุระ
-
โคเรจินจะ (Korei Jinja): เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในเหมือง
-
โฮตากิจินจะ (Hotaki Jinja): อุทิศให้กับพนักงานและเจ้าหน้าที่ธนาคารฮอกไกโดทาคุโชคุ
ศาลเจ้าฮอกไกโดจึงเป็นทั้งศูนย์กลางศาสนา สัญลักษณ์แห่งความเสียสละของผู้บุกเบิก และสถานที่ที่สะท้อนความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และเทพเจ้า
เทศกาลสำคัญ:
-
เทศกาลปีใหม่ (1 มกราคม): สักการะวันแรกของปีเพื่อขอพรให้โลกสงบสุข ประเทศมั่นคง และราชวงศ์เจริญรุ่งเรือง
-
เทศกาลปัดเป่าฤดู (3 กุมภาพันธ์): ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิด้วยพิธีโยนถั่วเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย
-
วันก่อตั้งประเทศญี่ปุ่น (11 กุมภาพันธ์): ระลึกถึงการขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิองค์แรก จินมุ
-
เทศกาลขอพรผลผลิต (17 กุมภาพันธ์): อธิษฐานขอความอุดมสมบูรณ์ของพืชผลและความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรม
-
เทศกาลใหญ่ศาลเจ้าฮอกไกโด (14–16 มิถุนายน): หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เทศกาลซัปโปโร” (Sapporo Matsuri) เป็นหนึ่งในเทศกาลใหญ่ 10 อันดับของญี่ปุ่น มีขบวนแห่มิโคชิ (ศาลเจ้าจำลอง) และผู้คนกว่า 800,000 คนร่วมงาน
-
พิธีชำระล้างใหญ่ (30 มิถุนายน): ชำระบาปและฟื้นฟูจิตใจก่อนเริ่มครึ่งปีหลัง
-
เทศกาลศาลเจ้าผู้บุกเบิก (15 สิงหาคม): เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บุกเบิก 34 คน เด็ก ๆ กว่า 500 คนจะร่วมแห่มิโคชิขนาดเล็ก
-
เทศกาลบูชาการอัญเชิญเทพ (1 กันยายน): ระลึกถึงการอัญเชิญเทพทั้งสามในปี 1871
-
เทศกาลจักรพรรดิเมจิ (3 พฤศจิกายน): เฉลิมฉลองวันประสูติของจักรพรรดิเมจิ
-
เทศกาลขอบคุณเทพเจ้า (23 พฤศจิกายน): มาจากพิธีบูชาข้าวใหม่ เป็นการถวายผลผลิตปีแรกแด่เทพเจ้า
-
เทศกาลวันประสูติจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน (23 ธันวาคม): ถวายพระพรชัยและขอให้ทรงพระชนม์ยืนยาว
-
พิธีชำระล้างใหญ่ปลายปี (31 ธันวาคม): ล้างบาปก่อนเข้าสู่ปีใหม่
พิธีประจำเดือน: จัดขึ้นทุกวันที่ 1, 10, 15 และ 20 ของเดือน เวลา 10.00 น. เพื่ออธิษฐานให้โลกสงบสุขและประเทศรุ่งเรือง
วิธีการเดินทาง
- จาก สถานีโอโดริ (Odori Station) นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ไปลงที่ สถานีมารุยามะโคเอน (Maruyama-Koen Station) จากนั้นเดินต่อประมาณ 10–15 นาที ผ่านสวนมารุยามะจะถึงทางเข้าศาลเจ้าหลัก
คำแนะนำ
-
เที่ยวในช่วง เทศกาลซัปโปโร (14–16 มิ.ย.) เพื่อสัมผัสบรรยากาศสุดคึกคัก
-
ช่วง ปลายเมษายน–ต้นพฤษภาคม ดอกซากุระและบ๊วยจะบานพร้อมกัน
-
สามารถเที่ยวต่อที่ สวนมารุยามะ และ สวนสัตว์มารุยามะ ได้ในวันเดียว
-
โปรดเคารพมารยาทในศาลเจ้า เช่น ล้างมือก่อนสักการะ และโค้งคำนับเมื่อเข้าสู่ประตูโทริอิ
ค่าเข้าชม:
- ไม่เก็บค่าเข้าชม
เวลาเปิดทำการ:
- เปิดทุกวันเวลา 06:00–17:00 น. (ฤดูร้อนอาจขยายเวลาเพิ่มเติมในช่วงเทศกาล)