“เดินบนบอร์ดวอล์กปลอดภัยรอบปากปล่องภูเขาไฟ ชมบ่อกำมะถัน Oyunuma และบ่อโคลนเดือด แช่ออนเซ็นเท้า และชมการจัดแสงสี Onibi-no-Michi โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่งดงามเป็นพิเศษ”
หุบเขานรกจิโกคูดานิ(Jigokudani-Hell Valley) เป็นหุบเขาภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองโนโบริเบทสึ มีไอน้ำร้อนและก๊าซกำมะถันพวยพุ่งออกจากรอยแยกบนพื้นดิน ทำให้มีกลิ่นกำมะถันค่อนข้างแรง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความงดงามของพลังธรรมชาติผ่านเส้นทางเดินหลักที่จัดทำไว้เป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเพิ่มอีก 2 เส้นทาง ใช้เวลาเดินประมาณ 30–40 นาที เพื่อเข้าถึงจุดสนใจอื่น ๆ
จุดเด่นสำคัญคือบ่อกำมะถัน Oyunuma (อุณหภูมิประมาณ 50°C) และบ่อโคลนเดือด (Mud Pond) ซึ่งแสดงถึงความร้อนใต้พิภพได้อย่างชัดเจน น้ำที่ไหลออกจากบ่อสามารถใช้เป็นออนเซ็นเท้า และเป็นต้นน้ำสำหรับบ่อน้ำพุร้อนในเมืองโนโบริเบทสึ มีแร่ธาตุถึง 9 ชนิด เชื่อว่ามีสรรพคุณดีต่อสุขภาพ
อีกหนึ่งจุดดึงดูดที่โด่งดังคือการจัดแสงสีในยามค่ำคืน Onibi-no-Michi บอร์ดวอล์กจะถูกประดับไฟหลังพระอาทิตย์ตก ทำให้บรรยากาศของหุบเขาดูลึกลับและน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ไอน้ำร้อนผสมกับแสงไฟ ภาพที่เกิดขึ้นงดงามราวกับฉากจากนรก การจัดแสงสีโดยทั่วไปจะถึงประมาณ 23:00 น. แต่แนะนำให้ไปก่อนพระอาทิตย์ตกเพื่อความปลอดภัย
บริเวณโดยรอบมีโรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของฝาก ทำให้ผู้มาเยือนสามารถวางแผนเที่ยวชมและพักผ่อนได้อย่างสะดวกตลอดทั้งวัน
วิธีการเดินทาง
- ขึ้นรถไฟ JR ไปยังสถานีโนโบริเบทสึ แล้วต่อแท็กซี่หรือรถบัสสาธารณะไปหุบเขานรกจิโกคูดานิ ประมาณ 15 นาที
คำแนะนำ
- สวมรองเท้าไม่ลื่น เตรียมผ้าปิดจมูกสำหรับควันกำมะถัน และเที่ยวในช่วงเช้าเย็น หรือช่วงจัดแสงสีเพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวมาก
ค่าธรรมเนียม/ที่จอดรถ:
-
ค่าเข้าชม: ฟรี
-
ค่าจอดรถ: 500 เยนต่อวัน ที่จอดรถ Jigokudani หรือ Oyunuma สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ในช่วงฤดูหนาวอาจใช้ร่วมกันไม่ได้ ชำระรายวันและไม่สามารถนำบัตรออกมาใช้ซ้ำได้
เวลาเปิด:
- เปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน การจัดแสงสีโดยทั่วไปถึง 23:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด:
- ฤดูหนาวเหมาะสำหรับชมไอน้ำร้อนที่ลอยขึ้นในอากาศ ส่วนการจัดแสงสีสวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว