อุทยานแห่งชาติภูเรือครอบคลุมท้องที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย โดยอาณาเขตด้านทิศเหนือติดกับประเทศลาว รูปพรรณสันฐานของภูเรือคล้ายเรือใหญ่ตั้งอยู่บนยอดดอยสูง บางก้อนหินมีลักษณะเหมือนถูกปั้น ชาวบ้านเรียกว่า “กว้านสมอ” รอบๆ ภูเขามีขุนเขาน้อยใหญ่ปกคลุมด้วยหมอกละอองน้ำ สร้างบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางป่าอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร

ในปี พ.ศ. 2519 อธิบดีกรมป่าไม้และปลัดจังหวัดเลยได้แนะนำให้ส่งเสริมป่าภูเรือเป็นแหล่งท่องเที่ยว จากนั้นทางอำเภอภูเรือสำรวจพื้นที่และรายงานว่ามีทรัพยากรธรรมชาติสวยงาม เช่น ป่าไม้ น้ำตก และทิวทัศน์ กองอุทยานแห่งชาติกรมป่าไม้จึงสำรวจเพิ่มเติมและพบว่าพื้นที่นี้อยู่ในเขตป่าหมายเลข 23 ซึ่งได้รับการประกาศเป็นป่าถาวรของชาติ

ชื่อ “ภูเรือ” มาจากภูเขาลูกหนึ่งที่ชะโงกผายื่นออกคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขาคล้ายท้องเรือ กองอุทยานแห่งชาติเสนอจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ และคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเห็นชอบในปี พ.ศ. 2521 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาในปี พ.ศ. 2522 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศไทย

ภูมิประเทศประกอบด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน เขาหินทรายและหินแกรนิต ที่ราบสูงสลับกับยอดเขาสูง ยอดสำคัญ ได้แก่ ภูเรือ 1,365 เมตร ภูสัน 1,035 เมตร และภูกุ 1,000 เมตร เป็นต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเกียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดน้ำตกสวยงาม

อุทยานมีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะฤดูหนาวจะเกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า เรียกว่า “แม่คะนิ้ง” พืชพรรณประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบ และป่าสนเขา ยอดภูเรือมีป่าสนเขา สวนหินธรรมชาติ และทุ่งหญ้า ไม้พื้นล่าง เช่น กุหลาบป่า มอส เฟิน และกล้วยไม้สวยงามหลายชนิด เช่น ม้าวิ่ง สามปอย ไอยเรศ เอื้องคำ เอื้องผึ้ง และเอื้องเงิน

สัตว์ป่าประกอบด้วย หมี เก้ง กวางป่า หมูป่า หมาไน ลิง พญากระรอกดำ ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ป่า กระต่ายป่า เต่าเดือย เต่าปูลู และนกหลายชนิด โดยเฉพาะฤดูหนาวจะมีนกอพยพจากประเทศจีนจำนวนมาก

อุทยานแห่งชาติภูเรือจึงเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว การพักผ่อน การศึกษา และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัย

• เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 60 กม.

• มีรถโดยสารประจำทางจากตัวเมืองไปยังอุทยานในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว

• เส้นทางเข้าสู่อุทยานสะดวก สามารถขับรถขึ้นไปยังจุดชมวิวและน้ำตกบางแห่ง

• สวมรองเท้าเหมาะสมสำหรับเดินป่า

• เตรียมน้ำและอุปกรณ์จำเป็นสำหรับเดินทาง

• หากไปช่วงเช้า ควรเตรียมเสื้อกันหนาว

• เคารพธรรมชาติและไม่ทิ้งขยะ

• ใช้พื้นที่ตั้งแคมป์ที่จัดไว้เพื่อความปลอดภัย

ค่าเข้าชม

• ผู้ใหญ่ชาวไทย 40 บาท, เด็กชาวไทย 20 บาท

• ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 200 บาท, เด็กชาวต่างชาติ 100 บาท

เวลาเข้าชม

• 05:00 – 20:00 ทุกวัน