“พระธาตุศรีสองรักมีความโดดเด่นทั้งด้านประวัติศาสตร์และศาสนา เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพไทย-ลาว องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวตั้งอยู่บนเนินเขา ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว เป็นที่เคารพสักการะของชาวเลยและชาวลาวฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะแม”
พระธาตุศรีสองรักตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน เป็นปูชนียสถานสำคัญที่สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์กรุงศรีสัตนาคนหุต ในปี พ.ศ. 2103 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2106 เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือและสนับสนุนระหว่างกรุงศรีอยุธยาในสมัยพระมหาจักรพรรดิ และกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์ สปป. ลาว)
ในสมัยนั้น พม่าเรืองอำนาจและมีการรุกรานดินแดนต่าง ๆ เพื่อขยายอาณาเขต พระมหากษัตริย์ทั้งสองจึงตกลงร่วมมือกันทางการทหารและการเมือง พร้อมทั้งทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นเครื่องยืนยันความรักไมตรีและพันธมิตรทางการเมือง จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระธาตุศรีสองรักขึ้นที่กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างสองอาณาจักร
องค์พระธาตุสร้างด้วยอิฐถือปูน เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ สีขาวสูงตระหง่านบนเนินเขา ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และสันติภาพ
ภายในวัดมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะทิเบต หัวนาคปรกสร้างด้วยศิลา องค์พระสร้างด้วยทองสัมริด หน้าตักกว้าง 21 นิ้ว สูง 30 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังและลวดลายแกะสลักที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของสองอาณาจักรและความสัมพันธ์กับพม่า
พระธาตุศรีสองรักถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวด่านซ้ายและชาวลาวฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง สืบทอดความเชื่อเรื่องความรัก ความสามัคคี และความเป็นสิริมงคล การสักการะเชื่อว่าจะช่วยเสริมความมั่นคงในมิตรภาพ ความรักในครอบครัว และความสงบสุขในชีวิต
ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 จะมีการจัดงานสมโภชพระธาตุ หรือที่เรียกว่า "ลูกผึ้งลูกเทียน" โดยชาวบ้านจะนำต้นผึ้งที่ทำจากโครงไม้กรุด้วยลวดลายจากหยวก และประดับด้วยดอกผึ้ง (เทียน) มาถวายพระธาตุ พร้อมทำพิธีบูชาและขอพรให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความเป็นสิริมงคล นับเป็นประเพณีศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมากว่า 400 ปี
บริเวณรอบพระธาตุเต็มไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น มีทิวทัศน์ของแม่น้ำหมันและภูเขาโดยรอบ สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้สวยงาม การเดินขึ้นองค์พระธาตุให้ความรู้สึกสงบและใกล้ชิดกับธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นจุดศึกษาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมล้านช้างและศิลปะอยุธยา
พระธาตุศรีสองรักไม่ได้เป็นเพียงปูชนียสถานทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักร การรักษาพระธาตุและการจัดงานสมโภชทุกปีช่วยสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมและสร้างความเข้าใจระหว่างชาติ
วิธีการเดินทาง
-
รถยนต์ส่วนตัว: จากตัวเมืองเลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 (เลย-ภูเรือ) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2013 มุ่งหน้าสู่อำเภอด่านซ้าย แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2113 อีกประมาณ 1 กิโลเมตร องค์พระธาตุตั้งอยู่ริมแม่น้ำหมัน
-
รถโดยสารสาธารณะ: ใช้รถโดยสารไปยังอำเภอด่านซ้าย จากนั้นต่อรถท้องถิ่น
คำแนะนำ
-
ห้ามสวมใส่เสื้อผ้าหรือนำสิ่งของสีแดงเข้าไปในบริเวณองค์พระธาตุ
-
ห้ามกางร่ม สวมหมวก หรือสวมรองเท้าในกำแพงแก้ว
-
ไม่ควรนำเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไปนมัสการ
ค่าเข้าชม
-
ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด
-
เปิดทุกวัน: 06.00 น. – 17.00 น.
รีวิวทั้งหมด
(รีวิว 2 รายการ)รีวิวเมื่อ 9 มิ.ย. 55
-----------------------------
"ต้นผึ้งใหญ่" หมายถึง ต้นดอกผึ้งที่ทำเป็นต้นปราสาทขึ้นด้วย โครงไม้ไผ่หุ้มด้วยกาบกล้วย แล้วประดับด้วยดอกผึ้ง และมีไม้คาน 2 อัน มัดติดฐานต้นผึ้งสำหรับใช้หามด้วย ส่วน "ต้นผึ้งน้อย" หมายถึง ต้นผึ้งขนาดเล็กที่ทำด้วยหน่อกล้วยที่ควนทำเป็นฐานสี่เหลี่ยมที่ได้จากลำกล้วยขนาดเล็ก สำหรับถือและตั้งต้นผึ้ง ประดับด้วยดอกผึ้งตามลำต้นและก้านใบ ซึ่งทำจากเทียนไขตัดเป็นดอกแล้วเสียบตามกาบกล้วย แล้วกล่าวคำแก้บนเป็นเสร็จพิธี การแก้บนนี้จะต้องขอให้แสนคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ทำพิธี และกล่าวคำแก้บนด้วย
รีวิวเมื่อ 9 มิ.ย. 55
http://youtu.be/hrEfZTMKKqQ