“เกาะพิทักษ์โดดเด่นด้วยโฮมสเตย์ชาวประมงที่อบอุ่นและเรียบง่าย อีกทั้งยังมีช่วงเวลาพิเศษที่สามารถเดินเท้าข้ามจากฝั่งมายังเกาะได้ในช่วงน้ำทะเลลงต่ำสุด”
เกาะพิทักษ์ (Ko Phithak) เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอ่าวท้องครก ห่างจากชายฝั่งอำเภอหลังสวนเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เดิมมีชื่อว่า “เกาะผีทัก” ตามตำนานพื้นบ้านที่เล่าขานกันว่า เคยมีวิญญาณมาปรากฏเตือนชาวเรือให้ปลอดภัยจากพายุในอดีต ต่อมาชาวบ้านได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เกาะพิทักษ์” เพื่อความเป็นสิริมงคล หมู่บ้านบนเกาะแห่งนี้เป็นชุมชนชาวประมงขนาดเล็กที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตเรียบง่ายและผูกพันกับทะเลอย่างลึกซึ้ง
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถพักแบบ โฮมสเตย์กับชาวบ้าน เพื่อสัมผัสบรรยากาศอบอุ่นแบบครอบครัวและเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมงอย่างแท้จริง เช่น การหาปลา การเลี้ยงปลากะพงในกระชัง การแปรรูปอาหารทะเล รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างการพายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น และตกหมึกในยามค่ำคืน อาหารที่เสิร์ฟส่วนใหญ่เป็น อาหารทะเลสดใหม่จากชาวบ้าน เช่น ปูม้า กุ้งแชบ๊วย และปลาสดที่เพิ่งจับขึ้นจากอ่าว
อีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของเกาะพิทักษ์คือปรากฏการณ์ “เดินข้ามเกาะ” ที่จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงน้ำลงต่ำสุด ซึ่งจะเผยให้เห็น แนวสันทราย ทอดยาวจากชายฝั่งบางน้ำจืดไปถึงเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปยังเกาะได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ท่ามกลางทิวทัศน์สวยงามของทะเลสองฝั่ง ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกาะแห่งนี้
บนเกาะ ไม่มีรถยนต์หรือยานพาหนะใหญ่ จึงเงียบสงบและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย เพื่อพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแท้จริง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมรอบเกาะ ใช้เวลาประมาณ 40–60 นาที ก็จะได้ชมทั้งวิวทะเล ภูเขา และหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่น
วิธีการเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะ: จากตัวเมืองชุมพร ใช้ทางหลวงหมายเลข 41 มุ่งหน้าไปอำเภอหลังสวน จากนั้นขับต่อไปตามถนนเลียบชายทะเลจนถึงท่าเทียบเรือบ้านเกาะพิทักษ์ หรือท่าเรืออ่าวท้องครก สามารถฝากรถไว้ที่จุดรับฝากรถบริเวณท่าเรือได้ จากนั้นติดต่อ เรือหางยาวของโฮมสเตย์หรือเรือโดยสารท้องถิ่น เพื่อข้ามไปยังเกาะ ใช้เวลาเดินทางเพียง 5–10 นาทีเท่านั้น
คำแนะนำ
-
ควร จองโฮมสเตย์ล่วงหน้า เพราะส่วนใหญ่มีแพ็กเกจรวมอาหารทะเล 2–3 มื้อและค่าเรือรับส่งไว้แล้ว
-
กิจกรรมยอดนิยม ได้แก่ พายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการัง และเดินข้ามเกาะ ในช่วงน้ำลง
-
บนเกาะไม่มีรถยนต์ ควรเตรียมสัมภาระที่เบาและสะดวกต่อการเดินเท้า
-
หากต้องการสัมผัสประสบการณ์ เดินเท้าข้ามเกาะ ควรสอบถามช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุดจากชาวบ้านก่อนเดินทาง
ค่าเข้าชม:
- ฟรี (ตัวเกาะไม่มีค่าเข้า แต่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเรือข้ามฟากและโฮมสเตย์)
เวลาเปิด-ปิด:
- สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่น้ำทะเลลดลงจนสามารถเดินข้ามไปได้มักอยู่ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม (เวลาเรือโดยสารขึ้นอยู่กับการนัดหมายกับโฮมสเตย์)