“ธรรมเมกขสถูปเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดและโดดเด่นที่สุดในสารนาถ มีโครงสร้างทรงกระบอกอันยิ่งใหญ่ ประดับตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลักอันวิจิตรตระการตาอันเป็นเอกลักษณ์ของยุคคุปตะ ยืนตระหง่านเป็นพยานถึงจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนาบนโลก”
ธรรมเมกขสถูป (Dhamekh Stupa) เป็นหนึ่งในพุทธสถานที่สำคัญที่สุด 4 แห่งที่เรียกว่า สังเวชนียสถาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพุทธประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยธรรมเมกขสถูปเป็นสถูปที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายระลึกถึงสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรง แสดงปฐมเทศนา "ธัมมจักกัปปวัตนสูตร" เป็นครั้งแรกแก่ ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 รูป ที่ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน หรือที่ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ สารนาถ การแสดงธรรมครั้งแรกนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและเป็นเหตุให้เกิดพระภิกษุรูปแรกในโลก คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ทำให้พระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) ครบองค์สามบริบูรณ์ขึ้นเป็นครั้งแรก
สารนาถตั้งอยู่ห่างจากเมืองพาราณสี ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญของศาสนาฮินดู ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร ในสมัยพุทธกาล สารนาถอยู่ในดินแดนแห่งแคว้นมคธ ชื่อ "สารนาถ" มาจากศัพท์ว่า "สารงฺค + นารถ" ซึ่งแปลว่า "ที่อยู่ของสัตว์จำพวกกวาง" สอดคล้องกับชื่อ "อิสิปตนมฤคทายวัน" หรือ "ฤๅษีปัตนมฤคทายวัน" (บาลี: อิสิปตนมิคทายวน) ซึ่งมีความหมายว่า "ป่าอันยกให้แก่หมู่กวาง และเป็นที่ชุมนุมฤๅษี" ชื่อนี้สะท้อนถึงความสงบเงียบและความเป็นธรรมชาติของสถานที่แห่งนี้ในอดีต
-------------------------------------------------------------------
สารนาถในสมัยพุทธกาล
ในสมัยพุทธกาล สารนาถหรือป่าอิสิปตนมฤคทายวันแห่งนี้ เป็นเขตป่าอภัยทานแก่สัตว์ และยังเป็นสถานที่ที่เหล่าฤๅษีและนักพรตต่างๆ มาบำเพ็ญตบะและโยคะเพื่อเข้าถึงพรหมันตามความเชื่อในคัมภีร์อุปนิษัทของพราหมณ์ ด้วยความสงบวิเวกนี้เอง ทำให้เหล่า ปัญจวัคคีย์ ที่ปลีกตัวออกจากเจ้าชายสิทธัตถะ หลังจากที่พระองค์ทรงเลิกบำเพ็ญทุกรกิริยา ได้มาบำเพ็ญตบะอยู่ที่นี่
หลังจากพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และเสด็จมายังสารนาถเพื่อทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมดแล้ว พระองค์ได้ พักจำพรรษาแรก ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวันแห่งนี้ พร้อมกับเหล่าพระอรหันต์ปัญจวัคคีย์ ในระหว่างจำพรรษาแรก พระองค์ได้สาวกเพิ่มกว่า 45 องค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระยสะ และบริวารของท่าน 44 องค์ ซึ่งรวมถึงบิดามารดาและภรรยาของพระยสะ ที่ได้มาฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์และได้ยอมรับนับถือเป็น อุบาสกอุบาสิกาคู่แรกในโลก ที่ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ทำให้ในพรรษาแรกที่พระพุทธเจ้าทรงจำพรรษาที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน มี พระอรหันต์ในโลกรวม 60 องค์ และองค์พระพุทธเจ้า
นอกจากนี้ ในบริเวณสารนาถ ยังเป็นสถานที่สำคัญที่พระพุทธองค์ทรงประกาศเริ่มต้น ส่งให้พระสาวกกลุ่มแรกออกไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา หลังจากทรงจำพรรษาแรกแล้ว (เชื่อกันว่าเป็นจุดที่เดียวกับที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา คือธรรมเมกขสถูป) ดังปรากฏความตอนนี้ใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรคว่า:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเที่ยวจาริกไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก เพื่อความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เธอทั้งหลายอย่าได้ไปด้วยกัน 2 รูป โดยทางเดียวกัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงแสดงธรรม งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง..." (สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ทุติยปาสสูตรที่ 5)
ด้วยเหตุการณ์สำคัญทั้งหมดนี้ สารนาถจึงได้กลายเป็น สัญลักษณ์แห่งศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งแรก มาตั้งแต่นั้น ซึ่งในช่วงหลังจากพระพุทธองค์เสด็จออกจากสารนาถหลังประกาศส่งพระสาวกออกเผยแพร่ศาสนานั้น ไม่ปรากฏในหลักฐานในพระไตรปิฎกว่ามีการสร้างอารามหรือสิ่งก่อสร้างในป่าสารนาถแห่งนี้ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าสิ่งก่อสร้างใหญ่โตคงจะได้มาเริ่มสร้างขึ้นกันในช่วงหลังที่พระพุทธศาสนาได้รุ่งเรืองมั่นคงในแคว้นมคธแล้ว
-------------------------------------------------------------------
หลังพุทธปรินิพพาน
ประมาณ 300 กว่าปีต่อมาหลังพุทธกาล ในสมัย พระเจ้าอโศกมหาราช กลุ่มสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมธรรมเทศนาและพระธรรมเทศนาอื่น ๆ แก่เบญจวัคคีย์ และหมู่คันธกุฎีของพระพุทธเจ้า ในบริเวณป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ได้รับการบูรณะและก่อสร้างศาสนสถานเพิ่มเติมครั้งใหญ่เพื่อถวายเป็น อนุสรณียสถาน แก่พระพุทธเจ้า และกลุ่มพุทธสถานเหล่านี้ได้เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัย ราชวงศ์คุปตะ ดังที่ พระถังซำจั๋ง (Chinese traveler Hiuen-Tsang) ได้บันทึกไว้เมื่อราว พ.ศ. 1300 ว่า "มีพระอยู่ประจำ 1,500 รูป มีพระสถูปสูงประมาณ 100 เมตร มีเสาศิลาจารึกรูปหัวสิงห์ และสิ่งอัศจรรย์มากมาย ฯลฯ"
อย่างไรก็ตาม พุทธสถานเหล่านี้ได้ถูกทิ้งร้างไปเมื่อกษัตริย์โมกุลเข้าปกครองอินเดีย จนกระทั่งท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ ชาวศรีลังกา ได้มาบูรณะขึ้นใหม่อีกครั้ง และได้รับการบูรณะจากรัฐบาลอินเดียเรื่อยมา ทำให้สารนาถกลายเป็นจุดหมายปลายทางในการแสวงบุญที่สำคัญแห่งหนึ่งของชาวพุทธทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน
-------------------------------------------------------------------
จุดแสวงบุญและโบราณสถานสำคัญอื่น ๆ ในสารนาถ
ปัจจุบัน พื้นที่แสวงบุญในสารนาถได้รับการขุดค้นขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ เผยให้เห็นซากพุทธสถานสำคัญ ๆ ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต:
-
ยสสถูป: สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงพบท่านยสะ ซึ่งต่อมาได้บรรลุเป็นพระอรหันตสาวกองค์ที่ 6 ของโลก พร้อมกับบิดาของท่านที่ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน และกลายเป็นอุบาสกคนแรกของโลก
-
รากฐานธรรมราชิกสถูป: สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงอนัตตลักขณะสูตร และเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
-
พระมูลคันธกุฏี: เป็นพระคันธกุฏีที่ประทับจำพรรษาของพระพุทธองค์ในพรรษาแรกหลังจากตรัสรู้
-
ซากเสาพระเจ้าอโศกมหาราช: ปัจจุบันหักเป็น 5 ท่อน เดิมเสานี้มีความสูงถึง 70 ฟุต และบนยอดเสามีรูปสิงห์ 4 หัวอันโด่งดัง สิงห์ 4 หัวนี้รอดพ้นจากการทำลายและได้รับการเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์สารนาถ โดยรัฐบาลอินเดีย และถูกนำมาใช้เป็น สัญลักษณ์ประจำชาติของอินเดีย นอกจากนี้ ข้อความจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราชที่จารึกไว้ใต้รูปสิงห์ดังกล่าวคือ "สตฺยเมว ชยเต" (Satyameva Jayate) ซึ่งหมายถึง "ความจริงชนะทุกสิ่ง" และได้ถูกนำมาเป็น คำขวัญประจำชาติของประเทศอินเดีย อีกด้วย
ในช่วงเทศกาลหรือฤดูกาลพิเศษ จะมีการจัดงานและกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนมากมาย เช่น พิธีบูชาและงานเฉลิมฉลองทางศาสนา ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาอันแรงกล้า
สถานที่นี้ยังเหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการแสวงบุญ นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีผู้สนใจศึกษาเรื่องราวของพระพุทธศาสนาในยุคแรกเริ่ม รวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ต้องการสัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะอันยิ่งใหญ่ของอินเดีย
หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้เกี่ยวกับจุดกำเนิดของพระพุทธศาสนา และชมสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่เปี่ยมด้วยเรื่องราว ธรรมเมกขสถูป สารนาถ คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด
วิธีการเดินทาง
-
ทางอากาศ: สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือ สนามบินนานาชาติพาราณสี (VNS) ซึ่งอยู่ห่างจากสารนาถประมาณ 25-30 กิโลเมตร จากสนามบินสามารถต่อรถแท็กซี่หรือรถตุ๊กตุ๊ก (rickshaw) ไปยังสารนาถได้
-
ทางรถไฟ: สถานีรถไฟที่สำคัญที่สุดคือ สถานีรถไฟพาราณสี (Varanasi Junction - BSB) ซึ่งเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วอินเดีย จากสถานีสามารถเดินทางต่อด้วยรถแท็กซี่หรือรถตุ๊กตุ๊กไปยังสารนาถ
-
ทางรถยนต์: สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถเช่า หรือรถบัสจากเมืองใหญ่ใกล้เคียงในรัฐอุตตรประเทศ
คำแนะนำ
-
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม: ควรมาเยือนธรรมเมกขสถูปในช่วง เดือนตุลาคมถึงมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายและเหมาะสมกับการท่องเที่ยว
-
การแต่งกาย: เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ กรุณาแต่งกายสุภาพและเรียบร้อย (คลุมไหล่และหัวเข่า)
-
รองเท้า: อาจจะต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชมบางพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
-
ความปลอดภัย: ระมัดระวังทรัพย์สินส่วนตัว และปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่อย่างเคร่งครัด
-
ความสงบ: นี่คือสถานที่ทางศาสนาที่สำคัญ โปรดรักษาความสงบและเคารพต่อบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์
ค่าธรรมเนียมเข้าชม:
-
รายละเอียด: โดยทั่วไปแล้ว การเข้าชมธรรมเมกขสถูปและพื้นที่โดยรอบอาจมีค่าธรรมเนียมเข้าชมเล็กน้อยสำหรับชาวต่างชาติ (ปัจจุบันประมาณ 100 รูปีอินเดีย) และอาจแตกต่างกันสำหรับชาวอินเดีย (ประมาณ 20 รูปีอินเดีย) แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุด ณ สถานที่หรือจากเว็บไซต์ทางการท่องเที่ยว หมายเหตุ: การเข้าไปภายในองค์สถูปโดยตรงนั้นไม่ได้รับอนุญาตสำหรับนักท่องเที่ยว
เวลาเปิดทำการ:
-
รายละเอียด: เปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยทั่วไปคือตั้งแต่ เวลา 07:00 น. ถึง 17:00 น.