วัดศาลาลอย (Sala Loi Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ต่อชาวโคราชอย่างยิ่ง สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พ.ศ. 2370) ภายหลังที่ ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และพระยาปลัด (ทองคำ) สามี ได้นำชาวโคราชต่อสู้กับกองทัพเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์จนได้รับชัยชนะ เมื่อเสร็จศึกแล้ว ย่าโมได้อธิษฐานจิตและสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความเสียสละและชัยชนะ โดยมีตำนานเล่าว่าท่านได้เสี่ยงทายลอยแพรูปศาลาไปตามลำตะคอง และสร้างวัดขึ้นในบริเวณที่แพลอยไปติด ซึ่งแพได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นวัดร้าง

ที่บรรจุอัฐิท้าวสุรนารี: ภายในวัดมีเจดีย์ซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี (ย่าโม) และพระยาปลัด (ทองคำ) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่ประชาชนเดินทางมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างต่อเนื่อง เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย แสดงถึงความเคารพต่อวีรสตรีของชาติ

พระอุโบสถหลังใหม่ (ทรงเรือสำเภา):

• สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2510 โดย พระราชสีมาภรณ์ (ชอบ อนุจารี)

• เป็นสถาปัตยกรรมแนวบุกเบิกที่ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทสถาปัตยกรรมจากสมาคมสถาปนิกสยามในปี พ.ศ. 2516

• ตัวอุโบสถจำลองรูปทรงเป็น เรือสำเภา ที่กำลังจะออกเดินทาง ซึ่งสื่อความหมายถึงการพาผู้คนข้ามวัฏสงสาร (ทะเลแห่งทุกข์) ไปสู่พระนิพพาน

• ผนังด้านนอกประดับด้วย กระเบื้องดินเผาจากบ้านด่านเกวียน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญของโคราช ลวดลายของกระเบื้องเหล่านี้ถูกปั้นเป็นเรื่องราวพุทธประวัติและวรรณคดีทางพระพุทธศาสนาอย่างวิจิตรงดงาม เป็นการผสานศิลปะท้องถิ่นเข้ากับพุทธศิลป์ได้อย่างลงตัว

พระอุโบสถหลังเก่า:

• เป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะพื้นบ้านแบบลาว/ล้านช้าง ซึ่งเป็นศิลปะที่แพร่หลายในภาคอีสาน

• เป็นสถานที่จัด พิธียกช้างเสี่ยงทาย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับผู้แสวงบุญ โดยเชื่อว่าหากสามารถยกช้างเสี่ยงทายในครั้งแรกขึ้นและครั้งที่สองไม่ขึ้น จะเป็นสัญญาณว่าคำอธิษฐานจะสำเร็จผลตามที่ตั้งใจ

กิจกรรมทำบุญและความเชื่อ:

• วัดศาลาลอยยังเป็นศูนย์รวมของการทำบุญหลากหลายรูปแบบ เช่น การถวายสังฆทาน การบริจาคโลงศพ และการไถ่ชีวิตโคกระบือ

• นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีการประดิษฐาน ท้าวเวสสุวรรณ และศาลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ เช่น พระพิฆเนศ และมีจุดสำหรับบูชา พระราหู เพื่อเสริมดวงชะตา ทำให้วัดแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นศูนย์รวมความเชื่อและความศรัทธาในปัจจุบันด้วย

รถส่วนตัว:

• ใช้ถนนมิตรภาพ (ทล.2) มุ่งหน้าไปทางถนนราชสีมา-โชคชัย (ทล.224) แล้วเลี้ยวแยกเข้าวัด

รถสาธารณะ:

• จาก บขส.2 นั่งรถสองแถวสาย 7 มาลงวัดพายัพ แล้วต่อสาย 14 ไปวัดศาลาลอย

• นั่งแท็กซี่ หรือรถตุ๊กตุ๊กจากตัวเมือง

• ไปช่วงเช้าหรือช่วงเย็น อากาศสบายและแสงสวยสำหรับถ่ายภาพ

• ควรแต่งกายให้สุภาพ เนื่องจากเป็นสถานที่ศาสนา

• แนะนำให้แวะไหว้อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ต่อได้ในทริปเดียว

• หากมาในช่วงงานย่าโม คนค่อนข้างเยอะ ควรเผื่อเวลาในการเดินทาง

ค่าเข้าชม:

• เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิดปิดทำการ:

• เปิดทำการทุกวัน: 08:00 – 18:00 น.