“ประเพณีตักบาตรดอกไม้และถวายเทียนพรรษา ปี 2553 ณ วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี ประเพณีตักบาตรดอกไม้ วัดพระพุทะบาทราชวรมหาวิหาร ททท. สำนักงานลพบุรี ขอเชิญร่วมงานประเพณีตักบาตรดอกไม้ ประจำปี 2553”
จากเรื่องเล่าเกี่ยวกับวัดพระพุทธบาทฯในอดีตยามหน้าแล้งกลางเดือนสามเดือนสี่ผู้คนจากทั่วสารทิศจะพากันหลั่งไหลไปนมัสการรอยพระพุทธบาทกันเนืองแน่นปัจจุบันคือวัดพระพุทธบาทอำเภอพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรีสมัยนั้นการขึ้นไปมิใช่เรื่องง่ายต้องหยุดการทำงานต่างๆเพื่อเตรียมสัมภาระจัดหาทุนรอนค่าอาหารค่าจ้างช้างม้าเรือแพการเดินทางยากลำบากทั้งชีวิตบางคนอาจมีบุญไปกราบได้เพียงครั้งเดียวบางคนไม่มีโอกาสแม้จะมีความตั้งใจสูงเพียงใดประกอบกับแต่ก่อนผู้คนมักจะไปนมัสการรอยพระพุทธบาทกันเป็นหมู่ใหญ่ทั้งหมดล้วนแล้วมีความตั้งใจประกอบกับความเชื่อที่ว่าถ้าได้ไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทถึง3ครั้งในชีวิตจะได้ขึ้นสวรรค์ดังนั้นทุกคนจึงเพียรพยายามอย่างยิ่งและเมื่อไปถึงได้กราบรอยพระพุทธบาทต่างตั้งจิตอธิฐานตามใจปารถนาหลังจากนั้นประชาชนทั้งหลายจะตีระฆังที่แขวนเรียงรายไว้ด้วยหวังประกาศบุญให้เทพยาดาทุกชั้นได้อนุโมทนา ปัจจุบันนอกเหนือจากเดือนสามเดือนสี่แล้วยังมีวันเข้าพรรษาอีกหนึ่งวันที่ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทนายวัฒนพงษ์โพธิ์นิ่มแดงผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานลพบุรีเปิดเผยว่าการตักบาตรดอกไม้เป็นประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาวจังหวัดสระบุรีถือเอาวันเข้าพรรษาในวันแรมค่ำเดือนแปดของทุกปีจะมีประชาชนจากทุกสารทิศพากันไปทำบุญตักบาตรเนื่องในวันเข้าพรรษาที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารตำบลขุนโขลนอำเภอพระพุทธบาทเมื่อเสร็จจากการทำบุญตักบาตรในตอนเช้าแล้วก็จะพากันนำดอกไม้ชนิดหนึ่งคล้ายต้นกระชายหรือต้นขมิ้นมีหลายสีเช่นสีเหลืองสีขาวเรียกกันว่าดอกเข้าพรรษา(ดอกไม้นี้จะพบในช่วงเข้าพรรษา)มารอใส่บาตรพระสงฆ์ซึ่งพระภิกษุทั้งวัดเดินจะออกจากศาลาการเปรียญมารับดอกไม้จากพุทธศาสนิกชนที่รอนำดอกไม้ใส่บาตรเพื่อนำขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานบนพระมณฑปซึ่งรอยพระพุทธบาทภายในวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารแห่งนี้เป็นที่เคารพและศรัทราของพุธทสาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีความเชื่อในคติชาวลังกาว่าพระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้5แห่งและรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทฯแห่งนี้เป็น1ใน5แห่งของโลกหลังจากพระสงฆ์เข้านมัสการรอยพระพุทธบาทที่มณฑปแล้วก่อนที่จะเข้าพระอุโบสถจะผ่านพุทธศาสนิกชนที่รออยู่ตรงบันไดนาคเพื่อที่จะร่วมกันล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการชำระกิเลสชำระบาปเพื่อจะได้บุญกุศลและความสุขทางจิตใจติดตัวกลับไปโดยทุกท่านสามารถเข้าร่วมประเพณีตักบาตรดอกไม้โดยจะเริ่มรอบแรกวันที่25ก.ค. 2553หลังจากพิธีเปิดงานเวลาประมาณ15.00น.และวันที่26 – 27ก.ค. 2553วันละสองรอบเวลา10.00น.และ15.00น.ณทางขึ้นพระมณฑปวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารอ.พระพุทธบาทจ.สระบุรีนอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางในช่วงวันเวลาดังกล่าวททท.สำนักงานลพบุรีขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวไหว้พระ๙วัดสุขใจใกล้กรุงซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะเยี่ยมเยือนได้อาทิ 1.สักการะหลวงพ่อดำหรือหลวงพ่อศรีพุทธมงคลมุณีพร้อมศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองตำนานบ้านเสาร้องไห้ต้นกำเนิดชื่ออำเภอเสาไห้ณวัดสูงอ.เสาไห้ 2.วัดสมุหประดิษฐารามสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่๓ภายในวัดมีพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปลงรักปิดทองสมัยปางมารวิชัยศิลปะสุโขทัยและชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม 3.วัดพระเยาว์พระพุทธรูปทองคำที่รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายของพม่าที่ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสพร้อมแวะชมผ้าพื้นเมืองฝีมือกลุ่มสตรีท่อผ้าไทยวนณศูนย์ทอผ้าวัดต้นตาล 4.วัดเขาแก้ววรวิหารสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุสาวกที่สร้างขึ้น
จัดขึ้นณวันที่25 – 27กรกฎาคม2553ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารอ.พระพุทธบาทจ.สระบุรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารโทร. 0 3626 6658, 0 3626 6220 ที่ว่าการอำเภอพระพุทธบาทโทร. 0 3626 8615, 0 3626 6615 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานลพบุรีโทร. 0 3642 2768 9