“เป็นวัดที่ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงสร้างขึ้นพร้อมกับการก่อตั้งเมืองอุดรธานีในปี พ.ศ. 2436”
วัดมัชฌิมาวาสมีความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี ก่อนการสร้างเมืองอุดรธานี เดิมเป็นวัดร้างชื่อว่า "วัดโนนหมากแข้ง" ซึ่งมีตำนานเล่าว่ามีเจดีย์ศิลาแลงสร้างครอบต้นหมากแข้งขนาดใหญ่ และมีพระพุทธรูปหินขาวปางนาคปรกประดิษฐานอยู่ เมื่อก่อตั้งเมืองในปี พ.ศ. 2436 พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงสร้างเมืองอุดรธานี และโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดร้างแห่งนี้ขึ้นใหม่ พร้อมพระราชทานนามว่า "วัดมัชฌิมาวาส"
วัดมัชฌิมาวาสเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุดรธานี ประดิษฐานหลวงพ่อนาค พระพุทธรูปหินสีขาวปางนาคปรกองค์เดิม ภายในวิหาร ปัจจุบันทางวัดได้มีการก่อพระพุทธรูปหุ้มองค์เดิมไว้ ถือเป็นพระพุทธรูปมิ่งเมืองและสัญลักษณ์สำคัญของวัด
สถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างภายในวัดที่น่าสนใจได้แก่ พระอุโบสถที่สร้างในปี พ.ศ. 2485 วิหารทรงไทยที่ประดิษฐานหลวงพ่อนาค พระพุทธนรสีห์มหามุนี และพระพุทธาวศิษฐ์ อาคารเหล่านี้มีความงดงามและเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชน
วัดมัชฌิมาวาสยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระปริยัติธรรมที่สำคัญของมณฑลอุดรในอดีต และมีบทบาทในการเผยแพร่ความรู้ทางศาสนาและวัฒนธรรม วัดจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเทศน์ การสวดมนต์ การจัดงานประเพณี และการฝึกอบรมทางศาสนา เพื่อส่งเสริมความรู้และความเข้าใจในศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชน
วัดตั้งอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี สามารถเดินทางได้ง่ายโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือบริการรถสาธารณะ วัดอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี และศาลจังหวัดอุดรธานี การเข้าเยี่ยมชมวัดควรรักษาความสงบ สำรวม และแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เพื่อให้สอดคล้องกับธรรมเนียมและความศักดิ์สิทธิ์ของวัด
วิธีการเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัว: วัดตั้งอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี สามารถขับรถตามถนนอุดรดุษฎี วัดจะตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี และศาลจังหวัดอุดรธานี
- รถสาธารณะ/รถท้องถิ่น: สามารถใช้บริการรถรับจ้างหรือรถโดยสารสาธารณะในเมือง โดยวัดตั้งอยู่ใจกลางเมืองและเป็นที่รู้จักอย่างดี
คำแนะนำ
-
วัดมัชฌิมาวาสเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย และในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระปริยัติธรรมที่สำคัญของมณฑลอุดร การเข้าเยี่ยมชมวัดจึงควรรักษาความสงบ สำรวม และแต่งกายสุภาพเรียบร้อย
-
ควรมาถึงวัดในช่วงเช้าหรือบ่ายต้น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนจำนวนมาก และมีเวลาชมสถาปัตยกรรมและพระพุทธรูปได้อย่างเต็มที่
-
หากสนใจประวัติศาสตร์และศิลปกรรม ควรพกสมุดจดบันทึกหรือกล้องถ่ายภาพเพื่อจดจำรายละเอียดของวิหารและพระพุทธรูป
-
ควรเคารพสถานที่และไม่ส่งเสียงดังในบริเวณวัด โดยเฉพาะในวิหารและพื้นที่ปฏิบัติธรรม
-
สามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา เช่น การฟังเทศน์หรือสวดมนต์ เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีไทยดั้งเดิม
-
หากต้องการชมพระพุทธรูปและสิ่งก่อสร้างอย่างละเอียด ควรเดินช้า ๆ และใช้เวลาเยี่ยมชมแต่ละจุดเพื่อรับรู้ความงดงามของงานสถาปัตยกรรม
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด
- เปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยทั่วไปจะเปิดตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ถึงช่วงเย็น (ควรตรวจสอบเวลาปิดที่แน่นอนของแต่ละอาคารภายในวัด ณ วันที่เข้าชม)