“ศาลหลักเมืองอุดรธานีเป็นสถานที่เปี่ยมด้วยพลังศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ เสาหลักเมืองทำจากไม้คูณไม้มงคลของภาคอีสาน อัญเชิญดวงพระวิญญาณของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมมาสถิต ณ ที่แห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามองค์ได้ครบในที่เดียว ได้แก่ เสาหลักเมือง พระพุทธโพธิ์ทอง และท้าวเวสสุวรรณ”
ศาลหลักเมืองอุดรธานีเป็นสถานที่สำคัญทางศิลปวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สะท้อนความเชื่อและความศรัทธาของชาวเมืองได้อย่างลึกซึ้ง เชื่อกันว่าผู้ที่มากราบสักการะ ณ ที่แห่งนี้จะได้รับพรให้ชีวิตมีความมั่นคง เจริญรุ่งเรือง และปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
ศาลหลักเมืองแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2502 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักชัยของเมืองและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน เสาหลักเมืองทำจากไม้คูณ หรือไม้ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นไม้มงคลของชาวอีสาน สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติยศ เสาหลักมีความยาวกว่า 5 เมตร ฝังลึกลงในพื้นดินประมาณ 3 เมตร บริเวณฐานเสาได้บรรจุแผ่นยันต์ แก้วแหวนเงินทอง และวัตถุมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคลของเมือง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 ได้มีการสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่ขึ้นแทนหลังเดิมที่ทรุดโทรม โดยคงความงดงามแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ผสมศิลปะพื้นถิ่นอีสาน ตัวอาคารโดดเด่นด้วยหลังคาทรงจตุรมุขยอดปรางค์ ประดับลวดลายปูนปั้นอ่อนช้อย และกระเบื้องสีทองที่สะท้อนแสงแดดยามเย็นอย่างงดงาม
ภายในบริเวณศาลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญให้กราบไหว้ 3 จุด ได้แก่
-
เสาหลักเมือง – จุดศูนย์กลางแห่งศรัทธา เชื่อกันว่าการอธิษฐานขอพรที่นี่จะเสริมความมั่นคงในชีวิต การงาน และความรัก พร้อมเป็นที่สถิตของดวงพระวิญญาณของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
-
หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง – พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งร่มเงาและความร่มเย็น เชื่อกันว่าผู้กราบไหว้จะได้รับพรให้มีผู้ใหญ่ค้ำจุน ชีวิตราบรื่น
-
ท้าวเวสสุวรรณ – เทพผู้พิทักษ์โลกและเทพแห่งทรัพย์ เชื่อว่าการสักการะท่านจะช่วยขจัดอุปสรรค ภัยร้าย และดึงดูดโชคลาภ ความมั่งคั่งเข้าสู่ชีวิต
ศาลหลักเมืองแห่งนี้ยังเป็นจุดศูนย์รวมของกิจกรรมสำคัญประจำปี เช่น พิธีบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ผู้เป็นต้นกำเนิดของเมืองอุดรธานี และเป็นโอกาสให้ประชาชนร่วมกันทำบุญ สวดมนต์ และถวายเครื่องสักการะอย่างพร้อมเพรียง
บรรยากาศรอบศาลร่มรื่นด้วยต้นไม้และสวนหย่อมเล็ก ๆ เหมาะแก่การพักผ่อนและทำสมาธิ โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นที่แสงอ่อน ๆ ส่องกระทบองค์ศาล เกิดเป็นภาพงดงามและสงบเยือกเย็น เป็นเสมือน “หัวใจของเมืองอุดรธานี” ที่ยังคงเต้นอยู่ด้วยพลังแห่งศรัทธาของผู้คน
วิธีการเดินทาง
-
รถยนต์ส่วนตัว: ใช้ถนนอธิบดี สามารถจอดรถได้รอบบริเวณทุ่งศรีเมือง
-
รถสาธารณะ: มีรถสองแถว รถแท็กซี่ และรถรับจ้างภายในเมืองให้บริการสะดวก รวดเร็ว
คำแนะนำ
-
มีความเชื่อว่า หากเข้าศาลทางใด ควรออกทางเดิม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
-
การสักการะนิยมใช้เครื่องบูชาดังนี้
-
พระพุทธโพธิ์ทอง: ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก
-
เสาหลักเมือง: ธูป 3 ดอก พวงมาลัย 1 พวง
-
ท้าวเวสสุวรรณ: ธูป 9 ดอก ดอกกุหลาบ 1 ดอก
-
-
ควรมาสักการะในช่วงเช้าหรือเย็น อากาศเย็นสบายและเหมาะแก่การทำจิตใจให้สงบ
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิด–ปิด
- โดยปกติไม่มีเวลาเปิดปิดที่แน่นอนเนื่องจากเป็นสถานที่สาธารณะแนะนำไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วงเวลา 06:00 - 18:00 น. ของทุกวัน