วัดโคฟุคุจิ (興福寺) เป็นวัดโบราณที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ก่อตั้งครั้งแรกในปี ค.ศ. 669 ก่อนจะย้ายมายังเมืองนาราในปี ค.ศ. 710 เมื่อเมืองแห่งนี้ถูกแต่งตั้งให้เป็นเมืองหลวง วัดแห่งนี้ทำหน้าที่เป็น วัดประจำตระกูลฟูจิวาระ (Fujiwara Clan) ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และยังเป็น วัดใหญ่ของนิกายโฮสโซ (Hosso School / 法相宗) หนึ่งในนิกายพุทธที่เก่าแก่ที่สุดที่เข้าสู่ญี่ปุ่นในยุคนาระ

ในอดีตวัดประกอบด้วยอาคารมากกว่า 150 หลัง แม้หลายส่วนจะสูญหายจากไฟไหม้และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่สิ่งปลูกสร้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน—ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์ หอทอง พิพิธภัณฑ์—ล้วนสะท้อนถึงความรุ่งเรืองและความประณีตของสถาปัตยกรรมพุทธศาสนาคลาสสิกของญี่ปุ่น

หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ เจดีย์ห้าชั้น สูง 50 เมตร ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น โครงสร้างปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1426 ขณะที่ เจดีย์สามชั้น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1143 แสดงให้เห็นถึงงานช่างไม้เก่าแก่แสนงดงาม

นอกจากนี้ยังมี หอทองกลาง (Chū-Kondō) ซึ่งเพิ่งสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 2018 หลังจากขาดหายไปกว่า 300 ปี ทำให้ผู้มาเยือนได้เห็นความสง่างามของหอหลักจากยุคนาระอีกครั้ง และที่สำคัญอย่างมากคือ หอทองตะวันออก (Tō-Kondō / 東金堂) ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1415 และรอดพ้นจากไฟไหม้หลายครั้ง ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐาน พระยาคุชิ (Yakushi Nyorai) พระพุทธเจ้าแห่งการแพทย์ที่ชาวญี่ปุ่นเคารพบูชาอย่างสูง

ภายในพื้นที่วัดคือ พิพิธภัณฑ์สมบัติแห่งชาติ ซึ่งเก็บรักษา พระอาชูรา (Ashura Statue) อันโด่งดัง รูปเคารพที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี มีสามหน้าและหกกร สื่ออารมณ์ได้ลึกซึ้งและถือเป็นหนึ่งในผลงานประติมากรรมพุทธที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น

วัดตั้งอยู่ภายใน สวนสาธารณะนารา (Nara Park) ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันสงบงามกับสถาปัตยกรรมโบราณ และนักท่องเที่ยวยังสามารถพบกับ กวางนารา ที่เดินเล่นอย่างอิสระทั่วพื้นที่ สร้างประสบการณ์ที่ทั้งอบอุ่นและมีชีวิตชีวา

• บริเวณวัดภายนอก: ฟรี

• พิพิธภัณฑ์สมบัติแห่งชาติ: ประมาณ 1,000 เยน

• หอทองกลาง / หอทองตะวันออก: ประมาณ 500 เยน ต่อจุด
  (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)

• บริเวณวัด: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

• พิพิธภัณฑ์ / หอทอง: โดยทั่วไป 09:00 – 17:00 น. (เข้ารอบสุดท้าย ~16:30 น.)