น้ำตกผาดอกเสี้ยว หรือ “น้ำตรกรักจัง” ชื่อนี้มีที่มาจากภาพยนตร์ไทยชื่อดังที่มาถ่ายทำ ณ ที่แห่งนี้ เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หรือที่รู้จักกันว่า “หลังคาแห่งประเทศไทย” เส้นทางนี้อยู่ภายใต้การดูแลของชุมชนชาวกะเหรี่ยงซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่มาหลายชั่วอายุคน

นักท่องเที่ยวจะได้เดินผ่านป่าดิบเขาเย็นสบาย สะพานไม้ไผ่ที่สานด้วยมือ นาขั้นบันไดสีเขียวขจี และไร่ดอกไม้ก่อนถึงน้ำตกผาดอกเสี้ยวที่มีทั้งหมดราว 7 ชั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลำน้ำแม่กลาง นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำในแอ่งน้ำใสหรือนั่งพักฟังเสียงน้ำตกได้อย่างเพลิดเพลิน

ระหว่างทางจะมีป้ายข้อมูลเกี่ยวกับพืชและสัตว์ในพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติแบบดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง นอกจากนี้เส้นทางยังผ่านไร่กาแฟของชาวบ้าน นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มรสกาแฟอาราบิก้าคั่วสดใหม่จากแหล่งปลูกในหมู่บ้าน

ปลายทางของเส้นทางคือ หมู่บ้านแม่กลางหลวง หมู่บ้านชาวปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยงขาว) ที่ยังคงดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย นักท่องเที่ยวสามารถชมการทอผ้า งานฝีมือพื้นบ้าน และเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง ซึ่งสะท้อนแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างแท้จริง

• โดยรถยนต์ส่วนตัว: จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 มุ่งหน้าอำเภอจอมทอง (ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) จากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1009 ขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ แล้วตามป้ายบอกทางไปหมู่บ้านแม่กลางหลวง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางน้ำตกผาดอกเสี้ยว

• โดยทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่น: นักท่องเที่ยวสามารถจองแพ็กเกจทัวร์จากเชียงใหม่ซึ่งรวมเส้นทางเดินป่าผาดอกเสี้ยวไว้แล้ว โดยจำเป็นต้องมีไกด์ชาวกะเหรี่ยงนำทางทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยและสนับสนุนรายได้แก่ชุมชน

• โดยรถสาธารณะ: นั่งสองแถวสีแดงจากอำเภอจอมทองหรือจากด่านทางเข้าอุทยานฯ ไปยังหมู่บ้านแม่กลางหลวง

• สวมรองเท้าเดินป่าที่กันลื่นได้ดี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน

• พกน้ำดื่ม เสื้อกันฝน และยากันแมลง

• ควรเริ่มเดินในช่วงเช้าเพื่ออากาศที่เย็นสบายและแสงสวยสำหรับถ่ายภาพ

• เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น ขออนุญาตก่อนถ่ายภาพชาวบ้าน และไม่เก็บพืชหรือสิ่งของจากธรรมชาติ

• สนับสนุนชุมชนด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น กาแฟหรือผ้าทอมือ

ค่าเข้าชม:

รวมอยู่ในบัตรผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

• ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท
• เด็ก 150 บาท
• ชาวไทย 50 บาท
• ค่าบริการไกด์ท้องถิ่นประมาณ 200–300 บาทต่อคน จ่ายโดยตรงให้ชุมชนกะเหรี่ยง

เวลาเปิดทำการ:

• เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00–16.30 น.
  ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวชมคือเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งอากาศเย็นสบายและนาขั้นบันไดเขียวขจี