วัดพระธาตุพนม (Wat Phra That Phanom) เป็นวัดวรมหาวิหารที่ตั้งอยู่ในอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและลาวมายาวนานหลายศตวรรษ

ตามตำนานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พระธาตุพนมถูกสร้างขึ้นมากว่า 2,300 ปี โดยพระมหากัสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ซึ่งได้นำพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกหน้าอกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาบรรจุไว้ในพระธาตุ เพื่อเป็นที่เคารพสักการะ โดยมีพระยาเมืองต่าง ๆ อาทิ พญานันทเสนแห่งเมืองศรีโคตรบูรณ์ (นครพนมเดิม), พญาจุลนีพรหมทัด, พระยาอินทรปัตนคร และพญาดำแดงแห่งเมืองหนองหารน้อย ร่วมกันส่งกำลังคนและทรัพยากรเพื่อช่วยกันก่อสร้างพระธาตุจนแล้วเสร็จ พร้อมกับบรรจุของมีค่ามากมายภายใน

พระธาตุพนมได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกในปี พ.ศ. 2485 และได้รับการบูรณะหลายครั้ง โดยเฉพาะหลังจากวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.38 น. องค์พระธาตุได้ล้มทลายลงทั้งองค์จากฝนตกหนักและพายุพัดแรงหลายวันติดต่อกัน ด้วยความร่วมมือจากประชาชนทั่วประเทศและรัฐบาล ได้มีการสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิมจนแล้วเสร็จในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522

องค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมที่งดงามและสง่างาม โดยบนยอดประดับด้วยฉัตรทองคำหนัก 110 กิโลกรัม และภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงของมีค่าหลายหมื่นชิ้นที่ได้รับการถวายจากผู้ศรัทธา

วัดพระธาตุพนมมีความสำคัญทางศาสนาอย่างลึกซึ้ง และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีบทบาทในพิธีราชาภิเษกของทุกยุครัชกาล ซึ่งจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำศักดิ์สิทธิ์และสิ่งของต่าง ๆ มานมัสการอยู่เสมอ นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลเข้าพรรษา ยังได้รับพระราชทานต้นไม้ ทอง เงิน น้ำอบ ผ้าคลุม และเทียนพรรษาเป็นพุทธบูชาอย่างต่อเนื่อง

พระธาตุพนมยังมีความสำคัญในทางจิตวิญญาณของสายปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายพระกรรมฐานในภาคอีสาน ท่านได้เคยเดินทางมาเยี่ยมเยียนและนมัสการพระธาตุแห่งนี้ หลวงปู่มั่นมีความเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุพนม และได้ถือเป็นแหล่งพลังธรรมที่สำคัญในการปฏิบัติธรรมของท่าน รวมถึงเป็นจุดที่พระลูกศิษย์และศิษยานุศิษย์ได้มากราบไหว้เพื่อความสงบใจและความเป็นสิริมงคล

ทุกปีในวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 จะมีงานนมัสการพระธาตุพนมที่ยิ่งใหญ่ มีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลจากทั่วทุกสารทิศมาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง โดยงานจะสิ้นสุดในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 บรรยากาศเต็มไปด้วยความศรัทธาและความสงบ

สถาปัตยกรรมของพระธาตุเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐที่สลักลวดลายสวยงาม มีซุ้มประตูและซุ้มซ้อนกันสามชั้นลดหลั่นลงมา จนถึงองค์พระสถูปยอดสูงที่หุ้มทองคำประดับพลอยอันงดงาม สมเด็จพระกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้เป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ได้กล่าวไว้ในนิทานโบราณคดีเรื่องแม่น้ำโขงว่า “พระเจดีย์ธาตุพนมอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง สร้างเป็นสถูปทางพระพุทธศาสนา อาจสร้างตามลัทธิมหายานหรือหินยาน”

วัดพระธาตุพนมจึงเป็นสถานที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศาสนา ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม รวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไป นักถ่ายภาพ และคู่รักที่ต้องการบรรยากาศอันสงบและศักดิ์สิทธิ์ริมแม่น้ำโขง

หากคุณต้องการสัมผัสความศรัทธาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของชุมชนภาคอีสาน ขอเชิญมาเยี่ยมชมและนมัสการ วัดพระธาตุพนม แห่งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทย

• จากตัวเมืองนครพนม ใช้ทางหลวงหมายเลข 212 มุ่งหน้าสู่อำเภอธาตุพนม ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร

• รถโดยสารประจำทางจากตัวเมืองนครพนมมายังอำเภอธาตุพนมมีบริการตลอดวัน

• สามารถเช่ารถหรือใช้บริการแท็กซี่จากสนามบินนครพนมได้สะดวก

• แนะนำให้เดินทางมาในช่วงเทศกาลนมัสการพระธาตุ (เดือน 3) เพื่อสัมผัสบรรยากาศงานบุญอย่างเต็มอิ่ม

• สวมชุดสุภาพและเตรียมเครื่องสักการะ เช่น ดอกไม้ธูปเทียน

• ห้ามนำโดรนขึ้นบินบริเวณพระธาตุโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางวัด

ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี

เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.