“ป่ามรดกโลกผืนใหญ่ มีเส้นทางเดินป่า ส่องดูสัตว์ป่ากลางวัน กลางคืน มีน้ำตกกว่า 20 แห่ง ขับรถขึ้นชมได้ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 4 จังหวัด สระบุรี นครราชสีมา นครนายก และปราจีนบุรี มีเส้นทางเทรล 7–13 เส้น มีน้ำตกเด่น เช่น เหวสุวัต-เหวนรก จุดชมวิวพาโตรมใจ และลานกางเต็นท์ริมลำธาร พร้อมชมสัตว์กลางคืน”
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (Khao Yai National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2505 มีพื้นที่กว่า 2,168 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา สระบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในกลุ่มป่าดงพญาเย็น–เขาใหญ่
พื้นที่ประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อน ป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และทุ่งหญ้ากว้าง โดยยอดเขาที่สูงที่สุดคือยอดเขาเขาแผงม้า (1,292 เมตร) ภายในอุทยานมีพันธุ์พืชมากกว่า 3,000 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 67 ชนิด และนกมากกว่า 300 ชนิด เช่น ช้างป่า เสือโคร่ง ชะนี เก้ง กวาง นกเงือก และไก่ฟ้าหลังเงิน
จุดเด่นสำคัญ:
-
น้ำตกเหวนรก สูงประมาณ 150 เมตร เป็นน้ำตกที่ทรงพลังและงดงามในช่วงฤดูฝน
-
น้ำตกเหวสุวัต สูง 20 เมตร ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยาน เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
-
จุดชมวิวผาตรอมใจ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและหมอกยามเช้าที่มีชื่อเสียง
-
Km 30 Viewpoint มองเห็นแนวเขาเขียวและพื้นที่ป่าอย่างกว้างขวาง
เส้นทางเดินป่า:
อุทยานมีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นและยาวกว่า 13 เส้นทาง ตั้งแต่ 1.2 ถึง 8 กิโลเมตร โดยบางเส้นทางใช้เวลาเพียง 45 นาที ขณะที่บางเส้นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ตัวอย่างเช่น:
-
ศูนย์บริการ–น้ำตกกองแก้ว: เหมาะกับผู้เริ่มต้น ระยะทางสั้น
-
น้ำตกผากล้วยไม้–เหวสุวัต: เดินป่าผ่านป่าไผ่และลำธาร
-
ศูนย์บริการ–น้ำตกเหวสุวัต (8 กม.): เหมาะกับนักเดินป่ามืออาชีพ
กางเต็นท์ & แคมป์ปิ้ง:
อุทยานมีลานกางเต็นท์ขนาดใหญ่ เช่น:
-
ลานกางเต็นท์ลำตะคอง ใกล้ลำธาร อากาศเย็นสบาย มีร้านค้าสวัสดิการ ห้องน้ำ และแสงไฟ
-
ลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ เป็นจุดที่เงียบสงบ เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักผ่อนในธรรมชาติ
ช่วงเวลานิยมแคมป์ปิ้งคือเดือนพฤศจิกายน–มีนาคม อุณหภูมิช่วงเช้าลดต่ำถึง 15–18 องศาเซลเซียส
ชีวิตกลางคืน & ส่องสัตว์:
อุทยานมีกิจกรรม "รถส่องสัตว์กลางคืน" ให้บริการ โดยจะพาเยี่ยมชมสัตว์ป่าที่ออกหากินตอนกลางคืน เช่น ช้าง เก้ง หมูป่า และเม่น โดยมีเจ้าหน้าที่นำทาง ค่าบริการเฉลี่ย 500 บาท/คัน รองรับประมาณ 10 คน
บางช่วงฤดูกาลยังมี "เดินป่ากลางคืน" เพื่อชมสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เช่น กบ เขียด ตั๊กแตน หรือแมลงเรืองแสง ซึ่งจำเป็นต้องจองล่วงหน้าและมีเจ้าหน้าที่คุมความปลอดภัย
วิธีการเดินทาง
โดยรถยนต์ส่วนตัว:
-
จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) → เข้าถนนมิตรภาพ (หมายเลข 2) → เลี้ยวขวาที่ กม.58 (ถนนธนะรัชต์ หมายเลข 2090) → ขึ้นด่านเนินหอมไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตรจะถึงด่านตรวจและที่ทำการอุทยาน
-
ใช้เวลารวมประมาณ 2.5–3 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร
โดยรถโดยสารสาธารณะ:
-
รถบัส: ขึ้นรถโดยสารจากหมอชิต 2 ไปลงที่อำเภอปากช่อง จากนั้นต่อรถสองแถวหรือรถเหมาคันเข้าสู่อุทยาน
-
รถไฟ: ขึ้นรถไฟสายกรุงเทพฯ–นครราชสีมา ลงที่สถานีปากช่อง แล้วต่อรถเช่นเดียวกัน
คำแนะนำ
-
เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะ ฤดูหนาว (พฤศจิกายน–กุมภาพันธ์) ซึ่งอากาศเย็นสดชื่น มีหมอกยามเช้า และเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด
-
หากไม่มีรถส่วนตัว แนะนำให้ เหมารถ หรือใช้บริการ ทัวร์ท้องถิ่น จากปากช่องเพื่อความสะดวกในการเดินทางถึงจุดชมวิวและน้ำตกต่าง ๆ
-
ขับรถขึ้นเขา ควรใช้เกียร์ต่ำ และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า โดยเฉพาะช่วงฝนตกหรือหมอกลงจัด
ค่าธรรมเนียมเข้าชม :
- ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท / ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 400 บาท / เด็ก 200 บาท
เวลาเปิดทำการ :
- เปิดทุกวัน 06:00–18:00 น.
รีวิวทั้งหมด
(รีวิว 33 รายการ)รีวิวเมื่อ 5 ก.ค. 56
รีวิวเมื่อ 5 ก.ค. 56
รีวิวเมื่อ 19 ก.ย. 55
มีบ้านพัก บ้านพักเรือนแถว และค่ายพักแรม ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จำนวน 4 โซน ได้แก่ โซนศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โซนบนเขา-จุดชมวิว โซนค่ายสุรัสวดี และโซนบ้านธนะรัชต์ แต่ละโซนอยู่ห่างกันพอสมควร ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่จองที่พัก-บริการไว้แล้ว ควรติดต่อที่เจ้าหน้าที่งานบ้านพักและบริการของอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้มอบกุญแจที่พัก แนะนำเส้นทางเข้าที่พัก และคำแนะนำอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก่อนเข้าพัก
สถานที่กางเต็นท์
มีลานกางเต็นท์ตามจุดต่างๆ และมีเต็นท์ให้เช่า การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
ร้านอาหาร
มีบริการร้านอาหาร เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 - 18.00 น. ในวันจันทร์ - ศุกร์ และเวลา 07.00 - 21.00 น. ในวันเสาร์ - อาทิตย์ มีจำนวน 5 แห่ง คือ
บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
บริเวณจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้
บริเวณจุดกางเต็นท์ลำตะคลอง
บริเวณน้ำตกเหวสุวัต
บริเวณน้ำตกเหวนรก
ระบบสาธารณูปโภค
มีถนนระบบสองทางเชื่อมโยงจากการบริการ ไปยังจุดท่องเที่ยวและนันทนาการต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ความยาวรวมกันกว่า 86 กิโลเมตร มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ตลอด 24 ชั่วโมง
รีวิวเมื่อ 9 เม.ย. 55
รีวิวเมื่อ 18 เม.ย. 55
รีวิวเมื่อ 18 เม.ย. 55
รีวิวเมื่อ 24 ก.ย. 54
http://www.choowap.com/booking/thailand/nakornratchasima
เรียงตามราคาได้เลยจ้า
รีวิวเมื่อ 11 ก.ย. 54
รีวิวเมื่อ 11 ก.ย. 54
รีวิวเมื่อ 18 พ.ย. 53
รีวิวเมื่อ 17 พ.ย. 53
รีวิวเมื่อ 15 พ.ย. 53
รีวิวเมื่อ 14 พ.ย. 53
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงที่สุด อยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านหน้าผาชั้นนี้จะพุ่งไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่ 2 และ 3 ที่อยู่ถัดลงไปใกล้ ๆ กันในลักษณะการไหลตก 90 องศา รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง ในฤดูฝนน้ำจะไหลแรงมากจนดูน่ากลัว
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
เป็นน้ำตกเตี้ยๆ ที่เกิดจากห้วยลำตะคอง ในฤดูฝนจะดูสวยงามมากเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ใกล้บริเวณน้ำตกจะมีสะพานแขวนลำห้วยถึง 2 สะพาน ห้วยลำตะคอง เป็นแนวแบ่งเขต 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครนายกและจังหวัดนครราชสีมา น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 100 เมตร
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
เป็นน้ำตกขนาดกลางที่อยู่ในห้วยลำตะคองเช่นเดียวกัน ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 7 กม. สามารถเข้าถึงได้โดยทางรถยนต์และทางเดินเท้า ทางเดินเริ่มจากจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ไปประมาณ 1.2 กม. โดยเดินเลียบไปตามห้วยลำตะคองที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่ร่มครึ้ม มีโอกาสพบนกหลายชนิด เช่น นกกางเขนน้ำหลังเทา นกกะรางคอดำ นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ ฯลฯ น้ำตกผากล้วยไม้มีลักษณะเป็นหน้าผาลดหลั่นกันลงมา สูงประมาณ 10 เมตร ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำกว้างมาก เหมาะสำหรับเล่นน้ำ ตามหน้าผาและคบไม้บริเวณน้ำตกพบกล้วยไม้นานาชนิดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก กล้วยไม้ที่โดดเด่นที่สุด คือ หวายแดง ที่จะออกดอกสีแดงเป็นช่อยาวในช่วงหน้าร้อน
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วๆ ไป น้ำตกเหวสุวัตนี้อยู่สุดถนนธนะรัชต์ หรือจะเดินเท้าต่อจากน้ำตกผากล้วยไม้ไปก็ได้ ประมาณ 3 กิโลเมตร น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 25 เมตร เกิดจากห้วยลำตะคองไหลตกผ่านหน้าผาสูง บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธารเหมาะที่จะลงเล่นน้ำ แต่สำหรับฤดูฝนน้ำจะมากและไหลแรงน้ำค่อนข้างเย็นจัด
แต่ทางอุทยานแห่งชาติได้มีป้ายประกาศว่าห้ามเล่นน้ำไว้เนื่องจากกลัวอันตรายว่าจะมีน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน ในฤดูฝนสายน้ำที่ตกลงมาจะเป็นละอองกระจายเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบาย แต่หากมาในฤดูน้ำน้อย จะสามารถเดินลัดเลาะเพื่อเข้าไปยังโพรงถ้ำเล็กๆ ใต้หน้าผาน้ำตกได้
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
เส้นทางเดินป่าระยะไกล เป็นเส้นทางที่ต้องมีการพักแรมในป่า โดยมากเป็นเส้นทางที่อยู่รอบอุทยานแห่งชาติ ใช้เวลาค้างคืน ผู้สนใจสามารถติดต่อเดินป่าได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติใกล้เคียงและที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เช่น
เส้นทางเขาสมอปูน ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนที่สูง 805 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง บนสันเขาเป็นที่ราบสลับกับป่าโปร่ง ช่วงปลายฝนต้นหนาว ราวเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ดอกไม้ป่า เช่น หงอนไก่ กระดุมเงิน หญ้าข้าวก่ำ จะพร้อมใจกันบานอวดดอกสวยสะพรั่ง เริ่มต้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขญ.12 (เนินหอม) เดินไต่ระดับความสูงแล้วลัดเลาไปตามหน้าผา ผ่านลานสุริยัน ทุ่งพรหมจรรย์ น้ำตกหินดาด น้ำตกบังเอิญ น้ำตกเหวอีอ่ำ และสิ้นสุดที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขญ.10 (ประจันตคาม) ใช้เวลาเดินทาง 4 วัน 3 คืน เส้นทางเขาสมอปูน มีกำหนดปิดการท่องเที่ยวประจำปีระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน ของทุกปี
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
กิโลเมตรที่ 30 ถนนธนะรัชต์ สามารถชมทิวทัศน์ด้านทิศเหนือของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เป็นบริเวณกว้างและสวยงาม
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
นกที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ นกเงือก นกขุนทอง นกขุนแผน นกพญาไฟ นกแต้วแล้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา นกกระปูด ไก่ฟ้า และนกกินแมลงชนิดต่างๆ นกเงือกทั้ง 4 ชนิด ซึ่งได้แก่ นกกก นกเงือกกรามช้าง นกแก๊ก และนกเงือกสีน้ำตาล ที่พบบนเขาใหญ่นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักดูนกเป็นอย่างดี เพราะพบเห็นได้ทั่วไป พวกแมลงที่มีมากกว่า 5,000 ชนิด ที่สวยงามและพบเห็นบ่อยได้แก่ ผีเสื้อ มีรายงานพบกว่า 216 ชนิด
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
ในปัจจุบันถ้าขับรถยนต์ขึ้นเขาใหญ่ทางด่านตรวจเนินหอมข้ามสะพานคลองสามสิบไปแล้ว สามารถเห็นโขลงช้างได้เหมือนกัน โดยเฉพาะในตอนกลางคืนจากการศึกษาตามโครงการการอนุรักษ์ช้างป่า และการจัดการพื้นที่ป้องกัน (ELEPHANT CONSERVATION AND PROTECTED AREA MANAGMENT) โดย MR. ROBERT J. DOBIAS ภายใต้ความร่วมมือของ WWF และ IUCN ในปี พ.ศ.2527-2528 พบว่า มีจำนวนประมาณ 250 เชือก
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
ป่าเบญจพรรณแล้ง ลักษณะของป่าชนิดนี้อยู่ทางด้านทิศเหนือ ซึ่งมีระดับความสูงระหว่าง 200-600 เมตร จากระดับน้ำทะเล ประกอบด้วยไม้ยืนต้นประเภทผลัดใบ เช่น มะค่าโมง ประดู่ ตะแบก ตะเคียนหนู แดง นนทรี ซ้อ ปออีเก้ง สมอพิเภก ตะคล้ำ เป็นต้น พืชชั้นล่างมีไม้ไผ่และหญ้าต่างๆ รวมทั้งกล้วยไม้ด้วย ในฤดูแล้งป่าชนิดนี้จะมีไฟลุกลามเสมอ และตามพื้นป่าจะมีหินปูนผุดขึ้นอยู่ทั่วๆ ไป
ป่าดงดิบแล้ง ลักษณะป่าชนิดนี้มีอยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ราบลูกเนินในระดับความสูง 200-600 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ไม้ชั้นบน ได้แก่ ยางนา พันจำ เคี่ยมคะนอง ตะเคียนทอง ตะเคียนหิน ตะแบก สมพง สองสลึง มะค่าโมง ปออีเก้ง สะตอ ซาก และคอแลน เป็นต้น ไม้ยืนต้นชั้นรองมี กะเบากลัก หลวงขี้อาย และกัดลิ้น เป็นต้น พืชจำพวกปาล์ม เช่น หมากลิง และลาน พืชชั้นล่างประกอบด้วยพืชจำพวกมะพร้าว นกคุ้ม พวกขิง ข่า กล้วยป่า และเตย เป็นต้น
ป่าดงดิบชื้น ลักษณะป่าชนิดนี้เป็นป่าที่อยู่ในระดับความสูง 400-1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จะมีชนิดไม้คล้ายคลึงกับป่าดงดิบแล้ง เพียงแต่ว่าไม้วงศ์ยางขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ยางกล่อง ยางขน ยางเสี้ยน และกระบาก โดยเฉพาะพื้นที่ถูกรบกวนจะพบ ชมพูป่าและกระทุ่มน้ำขึ้นอยู่ทั่วไป พรรณไม้ผลัดใบ เช่น ปออีเก้ง สมพง และกว้าว แทบจะไม่พบเลย บริเวณริมลำธารมักจะมีไผ่ลำใหญ่ๆ คือ ไผ่ลำมะลอกขึ้นอยู่เป็นกลุ่ม ป่าดิบชื้นบนที่สูงขึ้นไปจะมียางปายและยางควน นอกจากไม้ยางแล้วไม้ชั้นบนชนิดอื่นๆ ยังมี เคี่ยมคะนอง ปรก บรมือ จำปีป่า พะดง และทะโล้ ไม้ชั้นรอง ได้แก่ ก่อน้ำ ก่อรัก ก่อด่าง และก่อเดือย ขึ้นปะปนกัน
ป่าดิบเขา ป่าชนิดนี้เกิดอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นบนภูเขาสูง ที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตรขึ้นไป สภาพป่าแตกต่างไปจากป่าดงดิบชื้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีไม้วงศ์ยางขึ้นอยู่เลย พรรณไม้ที่พบเป็นไม้เนื้ออ่อน เช่น พญาไม้ มะขามป้อมดง ขุนไม้ และสนสามพันปี และไม้ก่อชนิดต่างๆ ที่พบขึ้นในป่าดงดิบชื้น นอกจากก่อน้ำและก่อต่างๆ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 600-900 เมตรเท่านั้น ตามเขาสูงจะพบต้นกำลังเสือโคร่งขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ไม้ชั้นรอง ได้แก่ เก็ดล้าน ส้มแปะ แกนมอ เพลาจังหัน และหว้า พืชชั้นล่าง ได้แก่ ต้างผา กำลังกาสาตัวผู้ กูด และกล้วยไม้ดิน
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นับว่าเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญนั้นก็คือ น้ำตกที่สวยงาม มีน้ำตกน้อยใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งสำรวจพบและทำเส้นทางเดินเท้าไปถึงแล้วประมาณ 30 แห่ง ที่มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามสภาพธรรมชาติของภูมิประเทศ
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
เป็นสถานที่จัดทำขึ้นสำหรับการซุ่มดูสัตว์ป่า ผู้ที่สนใจสามารถเข้าใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
• หอดูสัตว์หนองผักชี อยู่บริเวณหนองผักชี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำของสัตว์ป่ารอบๆ หนองน้ำ เป็นทุ่งหญ้าคากว้างใหญ่ มีโป่งสัตว์ ปากทางเข้าอยู่บริเวณ กม. 35-36 ถนนธนะรัชต์ เดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
• หอดูสัตว์มอสิงโต อยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำมอสิงโต รอบๆ มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าโล่งที่เหมาะสำหรับซุ่มดูสัตว์ป่าที่มากินดินโป่ง ซึ่งเป็นดินที่มีแร่ธาตุสำคัญของสัตว์กินพืช อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 500 เมตร
นอกจากนี้ในบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขญ.4 (คลองปลากั้ง) ยังได้จัดให้มีหอดูสัตว์ชมกระทิง โดยอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติประมาณ 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในทุ่งหญ้าติดชายป่า เชิงสันเขากำแพง มีทิวทัศน์สวยงามมาก ในเวลาเย็นจะมีฝูงกระทิงออกหากินบริเวณใกล้ๆ สามารถชมจากหอดูสัตว์นี้ได้ชัดเจน
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง
มีบ้านพัก และที่กางเต้นท์ค้างแรมอยู่หลาย โซน
สาธารณูปโภค มีถนนระบบสองทางเชื่อมโยงจากการบริการ ไปยังจุดท่องเที่ยวและนันทนาการต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ความยาวรวมกันกว่า 86 กิโลเมตร มีไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
อยู่ใกล้กับที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีขนาดใหญ่พอที่จะรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่า 150 คน บริเวณนี้มีห้องประชุมซึ่งสามารถบรรจุคนได้ถึง 100 คน ใช้สำหรับเป็นที่ประชุมบรรยาย ฉายสไลด์และภาพยนตร์
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
มีบริการร้านอาหาร เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 - 18.00 น. ในวันจันทร์ - ศกุร์ และเวลา 07.00 - 21.00 น. ในวันเสาร์ - อาทิตย์ มีจำนวน 5 แห่ง คือ
- บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
- บริเวณจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้
- บริเวณจุดกางเต็นท์ลำตะคลอง
- บริเวณน้ำตกเหวสุวัต
- บริเวณน้ำตกเหวนรก
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53
รีวิวเมื่อ 29 ก.ค. 53