“ปราสาทนิโจเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจโชกุนโทกุงาวะและจุดเริ่มต้นยุคเมจิ พร้อมสวนสวย พระราชวังนิโนมารุ และประตูคารามงที่วิจิตร”
ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1603 โดย โทกุงาวะ อิเอยาสุ โชกุนคนแรกของตระกูลโทกุงาวะ เพื่อใช้เป็นที่พำนักเมื่อมาเยือนเกียวโตและแสดงอำนาจเหนือจักรพรรดิ ปราสาทนิโจได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCO ในปี ค.ศ. 1994 ภายใต้ชื่อ "อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งเกียวโตโบราณ" และยังเป็น สมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น
พระราชวังนิโนมารุ (Ninomaru Palace):
-
คุณค่าทางสถาปัตยกรรม: อาคารไม้รอดพ้นจากภัยพิบัติและยังคงรูปแบบเดิมสมบูรณ์ที่สุด ได้รับการกำหนดเป็นสมบัติแห่งชาติ
-
การแบ่งสัดส่วน: ประกอบด้วยอาคารไม้ 6 ส่วน เชื่อมต่อกันในลักษณะ “ปีกห่านบิน” (Flying Geese Formation) เป็นแบบอย่างของสถาปัตยกรรมโชอิน-ซูคุริในยุคเอโดะตอนต้น
-
พื้นนกไนติงเกล (Nightingale Floors): พื้นไม้ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดคล้ายเสียงนกร้องเมื่อเดินผ่าน เป็นมาตรการป้องกันผู้บุกรุกโดยเฉพาะนินจา
-
งานจิตรกรรม: ภายในประดับภาพวาดบนบานประตูเลื่อน (Fusuma) และผนังมากกว่า 3,600 ภาพ ฝีมือสำนักคาโนะ (Kanō School) ใช้สีทองและภาพโอ่อ่า เช่น ห้องเสือ (Tiger Room) มีภาพเสือและเสือดำสร้างความประทับใจและข่มขู่ผู้มาเยือน
ประตูคารามง (Karamon Gate): แกะสลักไม้และตกแต่งด้วยสัญลักษณ์มงคล เช่น นกกระเรียนและดอกโบตั๋น สะท้อนความวิจิตรของยุคสมัย
สวนต่างๆ (The Gardens):
-
สวนนิโนมารุ (Ninomaru Garden): แหล่งทัศนียภาพพิเศษของชาติ ออกแบบโดยโคโบริ เอ็นชู (Kobori Enshū)
-
สวนฮอนมารุ (Honmaru Garden): อาคารเดิมถูกทำลายและปรับปรุงใหม่ในยุคเมจิ ได้รับการกำหนดเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
-
สวนเซริวเอ็น (Seiryu-en Garden): ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก สร้างในปี 1965 ใช้จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม
ในปี ค.ศ. 1867 โทกุงาวะ โยชิโนบุ โชกุนคนสุดท้าย ใช้พระราชวังนิโนมารุประกาศ คืนอำนาจให้จักรพรรดิเมจิ (Taisei Hokan) ถือเป็นจุดสิ้นสุดยุคโชกุนและเริ่มยุคเมจิ
ภูมิทัศน์ตามฤดูกาล:
-
ฤดูใบไม้ผลิ: สวนต้นพลัมหลายร้อยต้นบานสะพรั่งช่วงปลายกุมภาพันธ์–ต้นมีนาคม และซากุระกว่า 300 ต้นหลายสายพันธุ์ ทำให้ชมดอกไม้ได้นานเกือบหนึ่งเดือน
-
กิจกรรมพิเศษ: การประดับไฟยามค่ำคืนช่วงซากุระบาน เพื่อสร้างบรรยากาศพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว
วิธีการเดินทาง
- จากสถานี Kyoto Station นั่งรถบัส Kyoto City Bus สาย 50 หรือ 101 มาลงที่ป้าย Nijo-jo Castle หรือเดินประมาณ 15–20 นาทีจากสถานี Nijo Station (สาย JR หรือ Subway Tozai Line)
คำแนะนำ
-
แนะนำใส่รองเท้าที่ถอดง่าย เนื่องจากต้องถอดรองเท้าเมื่อเข้าพระราชวัง
-
ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในพระราชวังนิโนมารุ
-
เผื่อเวลา 1.5–2 ชั่วโมงเพื่อเยี่ยมชมทั้งปราสาทและสวน
-
ช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงเหมาะสำหรับการชมสวนและดอกไม้
-
สามารถชมสวนต้นบ๊วยและซากุระ พร้อมกิจกรรมประดับไฟในฤดูซากุระ
ค่าเข้าชม:
- ผู้ใหญ่ 1,030 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 350 เยน, นักเรียนประถม/มัธยมต้น 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด:
- 08:45 – 17:00 น. (ปิดขายตั๋วเวลา 16:00 น.)