“ศาลหลักเมืองสระบุรีมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยการประดิษฐาน เสาหลักเมือง 2 ต้น ได้แก่ เสาเก่าในครอบแก้ว และเสาใหม่ทำจากไม้ชัยพฤกษ์ยอดบัวตูม ภายในศาลาจตุรมุขทรงไทยที่งดงาม พร้อมด้วยรูปเคารพเทพารักษ์ผู้ปกปักรักษาเมือง”
ศาลหลักเมืองสระบุรีเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวสระบุรีที่สร้างขึ้นเพื่อเป็น “หลักชัย” ของจังหวัด และเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชน เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2427 ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และต่อมาได้มีการบูรณะย้ายมาตั้งอยู่ในพื้นที่ปัจจุบัน บริเวณศาลากลางจังหวัดหลังเก่า (ซึ่งปัจจุบันคือที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี)
อาคารศาลหลักเมืองออกแบบเป็น ศาลาจตุรมุขทรงไทย มีหลังคายอดปรางค์และลวดลายประดับที่วิจิตรงดงาม ภายในประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญหลายองค์ ได้แก่
-
เสาหลักเมือง 2 ต้น
-
เสาเก่า: เก็บรักษาไว้ในครอบแก้ว เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์
-
เสาใหม่: สร้างจาก ไม้ชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นไม้มงคล มียอดเสาแกะสลักเป็น รูปดอกบัวตูม อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และความมั่นคง
-
-
รูปเคารพเทพารักษ์ประจำเมือง ได้แก่
-
พระเสื้อเมือง: เทพผู้คุ้มครองให้บ้านเมืองปลอดภัยจากภัยพิบัติ
-
พระทรงเมือง: เทพผู้ดูแลความสงบสุข ความเจริญ และความเป็นระเบียบของบ้านเมือง
-
พระกาฬไชยศรี: บริวารของพระยม ทำหน้าที่นำดวงวิญญาณของผู้ทำบาปไปชดใช้กรรมในยมโลก
-
ชาวสระบุรีและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมความมั่นคงในชีวิต หน้าที่การงาน และขอพรให้ชีวิตราบรื่น
วิธีการเดินทาง
-
รถยนต์ส่วนตัว: ศาลหลักเมืองตั้งอยู่ใจกลางเมืองสระบุรี บริเวณศาลากลางจังหวัดหลังเก่า (ปัจจุบันคือที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี) ติดถนนพิชัยรณรงค์สงคราม มีที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกต่อการเดินทาง
-
รถสาธารณะ: สามารถโดยสารรถโดยสารสาธารณะ รถรับจ้าง หรือรถจักรยานยนต์รับจ้างภายในเมืองมายังศาลหลักเมืองได้อย่างสะดวก
คำแนะนำ
-
การสักการะศาลหลักเมืองเชื่อว่าจะช่วยเสริมดวง เสริมหลักชัยในชีวิต และสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้มากราบไหว้
-
บริเวณใกล้เคียงมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น อนุสาวรีย์พระปิยมหาราช (รัชกาลที่ 5) และหน่วยงานราชการหลายแห่ง สามารถแวะเยี่ยมชมได้ในคราวเดียวกัน
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าสักการะ
เวลาเปิด–ปิด
- เปิดให้เข้าสักการะทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น.